นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ของพนักงานในกลุ่มพรูเด็นเชียล

บริษัท Prudential Services Limited (“พรูเด็นเชียล”) จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น (“นโยบาย”) สำหรับพนักงานของพรูเด็นเชียล และพนักงานของบริษัทลูกหรือบริษัทในเครือของพรูเด็นเชียล ซึ่งบริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อเราพิจารณาใบสมัครงานของท่าน หรือว่าจ้างท่านให้เข้าทำงาน อย่างไรก็ดี นโยบายฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการที่พรูเด็นเชียลเก็บรวบรวม ประมวลผล จัดเก็บ และใช้ข้อมูลเกี่ยวกับท่าน ตลอดจนสิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลดังกล่าว

พรูเด็นเชียลจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อพิจารณาใบสมัครงานของท่าน เข้าทำสัญญาว่าจ้างกับท่าน และปฏิบัติหน้าที่ที่สำคัญตามสัญญาจ้างงานกับท่าน เช่น จ่ายค่าจ้างและให้ผลประโยชน์ต่างๆ แก่ท่าน นอกจากนี้ บริษัทยังต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายและข้อกำหนดในสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานของท่าน รวมทั้งดำเนินการตามข้อกำหนดทางธุรกิจและการบริหารจัดการของบริษัท  หากบริษัทไม่สามารถประมวลผลข้อมูลได้ตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ บริษัทอาจไม่สามารถดำเนินการเกี่ยวกับการสมัครงานของท่าน หรือปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาว่าจ้างที่มีกับท่าน หรือยิ่งไปกว่านั้น บริษัทอาจไม่สามารถว่าจ้างท่านให้ทำงานต่อไปได้ ทั้งนี้ บริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่เกิดกรณีดังกล่าว เพียงแต่บริษัทจำเป็นต้องแจ้งข้อมูลดังกล่าวให้ท่านทราบเนื่องจากถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายฉบับนี้

ในบางกรณี บริษัทอาจจำเป็นต้องขอความยินยอมเป็นการเฉพาะเจาะจงจากท่านเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวิธีการบางประการ อย่างไรก็ตาม ในกรณีส่วนใหญ่บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยความยินยอมจากท่านสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

เมื่อกล่าวถึง “พรูเด็นเชียล” “บริษัท” หรือ “เรา” ในเอกสารฉบับนี้ หมายถึง บริษัทซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างท่าน โดยเป็นองค์กรที่ท่านยื่นใบสมัครงานหรือมีสัญญาว่าจ้างให้ทำงาน นอกจากนี้ อาจมีการกล่าวถึงคำว่า “กลุ่มพรูเด็นเชียล” ในนโยบายฉบับนี้ให้หมายความรวมถึงองค์กรของพรูเด็นเชียลอื่นทั่วโลก ท่านสามารถติดต่อขอรับรายละเอียดดังกล่าวจากบริษัทได้ตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ (หัวข้อ “การติดต่อบริษัท”)  นโยบายฉบับนี้มิได้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างงานของท่าน และบริษัทสามารถปรับปรุงข้อมูลในนโยบายฉบับนี้ให้เป็นปัจจุบันได้เป็นครั้งคราวเช่นเดียวกับนโยบายฉบับอื่นของพรูเด็นเชียล เช่น ในกรณีที่บริษัทใช้ระบบงานหรือมีกระบวนการดำเนินงานใหม่ที่ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

เราอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว โดยเราจะปรับปรุงข้อมูลในนโยบายดังกล่าวให้เป็นปัจจุบัน บน MyHR และบนเว็บไซต์ (https://www.prudential.co.th/corp/prudential-th/th/privacy-notice-staff/) เราใคร่ขอแนะนำให้ท่านหมั่นตรวจสอบข้อมูลในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว บน MyHR และบนเว็บไซต์ (https://www.prudential.co.th/corp/prudential-th/th/privacy-notice-staff/) เนื่องจากนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เผยแพร่ บน MyHR และบนเว็บไซต์ (https://www.prudential.co.th/corp/prudential-th/th/privacy-notice-staff/) นั้นจะถือเป็นฉบับที่มีผลใช้บังคับแทนที่นโยบายฉบับอื่นใดที่มีอยู่ก่อนหน้าทั้งหมด เราจะแจ้งให้ท่านทราบเมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และจะขอความยินยอมจากท่านเท่าที่จำเป็นและเมื่อมีข้อกำหนดให้ต้องขอความยินยอม

 

ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดบ้างที่พรูเด็นเชียลเก็บรวบรวมจากท่าน และสาเหตุที่พรูเด็นเชียลใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับท่าน พรูเด็นเชียลจะเก็บรวบรวม ประมวลผล และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามประเภทต่างๆ ดังต่อไปนี้ ซึ่งจะเรียกว่า “ข้อมูลของพนักงาน”

• ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อของท่าน (รวมถึง นามสกุล นามสกุลเดิมก่อนสมรส ชื่อเดิม) ลายมือชื่อ หมายเลขพนักงาน ภาพถ่ายของท่าน บันทึกภาพและเสียงของท่าน ที่อยู่อีเมลที่ใช้ในการทำงาน ที่อยู่ที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ในการทำงาน ความเป็นพลเมือง สัญชาติ ที่อยู่อาศัย

• ข้อมูลในการระบุตัวตนที่ทางราชการออกให้ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง/วีซ่า ข้อมูลเกี่ยวกับใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ หมายเลขประจำตัวผู้ประกันตนแห่งชาติ ทะเบียนบ้าน ทะเบียนบ้าน หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและเอกสารทางภาษี ทะเบียนสมรส ทะเบียนรถยนต์ เลขทะเบียนรถยนต์ ข้อมูลในการระบุตัวตนอื่นใดที่ทางราชการออกให้ (เช่น บัตรประจำตัวสำหรับผู้มีสิทธิอยู่อาศัย (Green Card)) ใบอนุญาตทำงาน และใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ

• ข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเดือนปีเกิด สถานที่เกิด อายุ รายละเอียดของบุคคลที่ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน และเพศ

• รายละเอียดในการติดต่อ เช่น ที่อยู่ที่บ้าน/ที่อยู่ที่ลงทะเบียนไว้กับทางราชการ ที่อยู่ที่ติดต่อได้ ที่อยู่ที่ทำงาน รหัสไปรษณีย์ ประวัติการติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่อีเมลส่วนบุคคล

• ข้อมูลเกี่ยวกับงาน เช่น ตำแหน่ง ชื่อตำแหน่งงาน ประเภทพนักงาน ระดับ ประเภทระยะเวลาการว่าจ้าง (เต็มเวลาหรือพาร์ทไทม์) ข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาการทำงาน สถานที่ทำงาน แผนก ฝ่าย ผู้จัดการ (ชื่อและหมายเลขประจำตัวพนักงาน) วันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดการทำงาน สถานะของสัญญาว่าจ้าง ประวัติการทำงาน (รวมถึงประวัติเกี่ยวกับหน้าที่ ชื่อตำแหน่ง วันที่มีผลใช้บังคับ และกลุ่มค่าตอบแทนในอดีต) ประวัติการศึกษา ข้อมูลใบอนุญาต (เช่น ใบอนุญาตการเป็นตัวแทน/นายหน้าประกันชีวิต) และคุณสมบัติ ประวัติการทำงาน (ได้แก่ บันทึกการเปลี่ยนแปลงในฐานข้อมูลทรัพยากรบุคคล) และเหตุผลในการออกจากงาน

• ประวัติการศึกษา เช่น สถานศึกษา ระยะเวลาในการศึกษา ใบแสดงผลการศึกษา กิจกรรมหลักที่ทำระหว่างศึกษา ทุนการศึกษา/รางวัลที่ได้รับ และ ความสำเร็จ

• ข้อมูลคัดกรองก่อนว่าจ้างเข้าทำงาน เช่น ข้อมูลที่ได้รับจากใบสมัครของท่าน (เช่น ตำแหน่งที่ท่านสมัคร เงินเดือนที่คาดหวัง บุคคลในครอบครัว ความสามารถทางภาษา ทักษะการพิมพ์ ทักษะทางคอมพิวเตอร์ ความสามารถพิเศษอื่นๆ วันที่เริ่มงาน ที่ทำงานเดิม และประสบการณ์ทำงาน) การตรวจสอบความน่าเชื่อถือ บุคคลอ้างอิง ประวัติย่อ (Resume)

• ข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือนและผลประโยชน์ของท่าน เช่น พื้นฐานและโบนัส การปรับขึ้นเงินเดือน (จำนวนและร้อยละที่ปรับขึ้น) เบี้ยเลี้ยง ผลประโยชน์ต่างๆ (ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับท่านและผู้ที่อยู่ในอุปการะซึ่งบริษัทได้ให้ไว้แก่ผู้ให้ผลประโยชน์) การเบิกจ่ายและข้อมูลการจ่ายเงิน ข้อมูลการคุ้มครองตามประกันภัยของบริษัท แผนบำนาญ ข้อมูลกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รหัสภาษี รายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากในธนาคารและวันที่จ่ายเงิน ข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือนสะสม กลุ่มพนักงาน และข้อมูลเกี่ยวกับเงินบำนาญ เงินกู้ และข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ ของท่าน

• ข้อมูลเกี่ยวกับคู่สมรส/คู่ชีวิต และผู้ที่อยู่ในอุปการะ เช่น ชื่อเต็ม วันเดือนปีเกิด และรายละเอียดในการติดต่อของคู่สมรสและผู้ที่อยู่ในอุปการะของท่าน

• ข้อมูลเกี่ยวกับแผนในการถือครองหุ้นของท่าน เช่น จำนวนหุ้นที่ท่านถืออยู่ รายละเอียดเกี่ยวกับแผนการถือครองหุ้นทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดหรือสิทธิอื่นใดในหุ้นที่ได้รับ ยกเลิก มีการใช้สิทธิ ได้รับสิทธิ หรือยกเลิกสิทธิ หรือที่ยังคงค้างอยู่ในนามของท่าน

• ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางเพื่อการทำงาน เช่น กำหนดการเดินทางเพื่อการทำงาน ข้อมูลการจอง และค่าใช้จ่ายในส่วนของบริษัทที่เกิดขึ้น

• รายละเอียดเกี่ยวกับถ้อยแถลงต่างๆ เช่น การจ้างงานลำดับรอง ถ้อยแถลงเกี่ยวกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัวที่มีความสัมพันธ์ในทางตรงและใกล้ชิดกับท่าน) หรือการรับของขวัญ รายละเอียดในแบบฟอร์มถ้อยแถลงของตนเอง

• ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ทำงงาน อุปกรณ์ การใช้งาน และเนื้อหา เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับระบบ/การตรวจสอบติดตามการเข้าถึงอาคาร เช่น ภาพถ่ายจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด การใช้บัตรเพื่อเข้าอาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ต อีเมล และโทรศัพท์ที่ใช้ในการทำงาน ตลอดจนเนื้อหาของผู้ใช้ที่สร้างบนระบบ/แพลตฟอร์มของพรูเด็นเชียล

• ข้อมูลเกี่ยวกับผลการทำงาน การพัฒนา และการลงโทษทางวินัย เช่น การพัฒนา การสำรวจความร่วมมือ ข้อมูลเกี่ยวกับการอบรมและการเรียนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ การพิจารณางานและการจัดอันดับ ข้อมูลเกี่ยวกับข้อกล่าวหาในทางวินัย กระบวนการในทางวินัย การสอบสวนและการแจ้งเตือนทางวินัย ตลอดจนรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุร้องทุกข์และผลการพิจารณา

• ข้อมูลการขาดงาน เช่น วันที่ที่ลาหยุด วันหยุด วันลาคลอด วันลาสำหรับบิดาในกรณีที่มีบุตร การลารับบุตรบุญธรรม การลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรร่วมกัน การลาไปงานศพ การยืนยันว่าเด็กคลอด การลาศึกษาต่อ การลาเพื่อดูแลสมาชิกในครอบครัว การลาเพื่อรับการรักษาพยาบาล

• ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร ได้แก่ หมายเลขประจำตัวพนักงานสำหรับระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศ รายละเอียดเกี่ยวกับบริษัท การจัดสรรค่าใช้จ่ายของแผนกและองค์กร

• ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ของบริษัท / การใช้งานเครือข่าย รวมถึง ข้อมูลที่ใช้เพื่อเข้าสู่ระบบและ

  แอปพลิเคชันของเรา ได้แก่ เนื้อหาด้านอิเล็กทรอนิกส์ และเมตาดาต้า (Metadata) ที่ท่านจัดทำขึ้นโดยใช้ระบบของบริษัท รายละเอียดต่างๆ เช่น ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ของโทรศัพท์มือถือของท่าน ที่อยู่ไอพีแอดเดรส (IP Address)  และหมายเลขรหัสของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ (MAC Address)  ข้อมูลเกี่ยวกับเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ ข้อมูลที่ใช้ในการล็อกอิน ข้อมูลอ้างอิง ข้อมูลการใช้งานผ่านระบบออนไลน์ ล็อก และข้อมูลที่จัดเก็บโดยใช้เทคโนโลยีอื่นๆ และ

• ข้อมูลอื่น เช่น วิถีชีวิตหรือสภาพสังคม

 

บริษัทเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลพนักงานนี้เพื่อวัตถุประสงค์หลายประการที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาและว่าจ้างท่านให้เป็นพนักงาน บริษัทได้ระบุวัตถุประสงค์ด้านล่างสำหรับการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าว (“วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล”) พร้อมตัวอย่างข้อมูลพนักงานบางส่วนที่ใช้สำหรับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลในแต่ละข้อ

• ประเมินความเหมาะสมของผู้สมัครงานเข้าทำงานในตำแหน่งที่สมัครหรือในตำแหน่งงานอื่นที่บริษัทอาจเปิดรับสมัคร รวมถึงการตรวจสอบประวัติและความถูกต้องของข้อมูล และขั้นตอนการเตรียมความพร้อมสำหรับตำแหน่งเหล่านั้น

• จัดการและให้เงินชดเชย รวมถึงเงินเดือน ค่าใช้จ่าย โบนัส แผนการออกหุ้น และผลประโยชน์จูงใจอื่นๆ ซึ่งต้องมีการประมวลผลข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวตน รายละเอียดในการติดต่อ และข้อมูลเกี่ยวกับงานของท่าน แพ็คเกจรางวัล ข้อมูลเกี่ยวกับผลการทำงานและมาตรการทางวินัย ข้อมูลเกี่ยวกับการขาดงาน ข้อมูลองค์กร และการจัดการด้านผลปะโยชน์ตอบแทนตามระบบบำเหน็จบำนาญทั้งในระหว่างการจ้างงานและหลังการว่าจ้าง

• จัดการและให้ผลประโยชน์ต่างๆ รวมทั้งเบี้ยเลี้ยงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ได้แก่ การรายงานสิทธิในการรับผลประโยชน์ และการใช้ผลประโยชน์ซึ่งต้องมีการประมวลผลข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวตน รายละเอียดในการติดต่อ ข้อมูลเกี่ยวกับงานของท่าน แพ็คเกจรางวัล ข้อมูลเกี่ยวกับผลการทำงานและมาตรการทางวินัย การบริหารจัดการพนักงาน รายละเอียดเกี่ยวกับบริการด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีจากแอปพลิเคชัน Pulse App ข้อมูลเกี่ยวกับการขาดงาน และข้อมูลองค์กร

• จัดการกำลังคนในการทำงานและความสัมพันธ์ในการจ้างงาน ได้แก่ การจัดการกิจกรรมเกี่ยวกับการทำงาน การติดตามตรวจสอบชั่วโมงการทำงาน การติดตามตรวจสอบการใช้อินเทอร์เน็ต อีเมล และโทรศัพท์ การประเมินผลการทำงาน และการเลื่อนตำแหน่ง จัดทำและเก็บรักษาแผนภูมิองค์กร บริหารจัดการทรัพยากรและคณะทำงานสำหรับหน่วยธุรกิจและหน่วยงานทางธุรกิจภายในองค์กร บริหารจัดการและติดตามตรวจสอบการเดินทางเพื่อการทำงาน การวิเคราะห์กำลังคนในการทำงาน การสำรวจเกี่ยวกับกำลังคนในการทำงาน การบริหารบุคลากรที่มีความสามารถ (Talent Management) และการพัฒนาด้านอาชีพ การบริหารจัดการ/ การอนุมัติวันหยุด การให้ข้อมูลอ้างอิง การจัดอบรมที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวตน รายละเอียดในการติดต่อ ข้อมูลเกี่ยวกับงานของท่าน แพ็คเกจรางวัล ข้อมูลเกี่ยวกับผลการทำงานและมาตรการทางวินัย ข้อมูลเกี่ยวกับการขาดงาน ข้อมูลองค์กร การสรรหาบุคลากรสำหรับตำแหน่งอื่นทั้งในระหว่างการจ้างงานและหลังการว่าจ้าง รวมถึงการจัดการด้านการว่าจ้าง การเตรียมความพร้อม และการเก็บบันทึกข้อมูลของท่าน การจัดการความต่อเนื่องและรายงานทางธุรกิจ การวางแผนผู้สืบทอดตำแหน่ง (การกู้คืนแบบฉุกเฉิน) การมอบหมายให้ท่านไปทำงานต่างประเทศ และการปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ

• กิจกรรมที่เกี่ยวกับความเป็นผู้บริหารเพื่อคัดเลือกและแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งบริหาร เก็บรักษาบันทึกและฐานข้อมูลของบริษัท อำนวยความสะดวกและช่วยเหลือท่านในการปฏิบัติหน้าที่และความรับผิดของท่าน ติดตามตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่และความรับผิดชอบของท่าน จัดการประชุม การฝึกอบรม และการสัมมนา

• ให้ความช่วยเหลือด้านระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อช่วยให้ท่านและบุคคลอื่นๆ สามารถทำงานได้ ช่วยให้บริษัทสามารถประกอบธุรกิจ และช่วยให้เราสามารถระบุและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศได้ และเพื่อให้ระบบงานของบริษัทซึ่งมีการประมวลผลข้อมูลพนักงานทุกนั้นมีความมั่นคงปลอดภัย

• ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อกำหนดเกี่ยวกับการจ้างงานที่ใช้บังคับ ตลอดจนงานธุรการต่างๆ ที่เกี่ยวกับข้อกำหนดดังกล่าว เช่น ภาษีเงินได้ การหักเงินเป็นค่าเบี้ยประกันสุขภาพแห่งชาติ การจัดการด้านสุขภาพและความปลอดภัยในสำนักงานและในระหว่างที่มีการเดินทางเพื่อทำงาน การปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการจ้างงานและการตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงกฎหมายเกี่ยวกับการคว่ำบาตร ซึ่งจะต้องมีการประมวลผลข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวตน รายละเอียดในการติดต่อ ข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานของท่าน แพ็คเกจรางวัล ข้อมูลเกี่ยวกับผลการทำงานและมาตรการทางวินัย ข้อมูลเกี่ยวกับการขาดงาน และข้อมูลองค์กร

• การตรวจสอบและป้องกันการฉ้อฉล เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่ท่านให้กับฐานข้อมูล ตรวจสอบข้อเท็จจริง และ/หรือ การตรวจสอบประวัติหรือการระบุความเสี่ยงเกี่ยวกับท่าน (รวมถึงการตรวจสอบข้อมูลของภาครัฐ/เอกชน หรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาล) การตรวจสอบความเสี่ยงด้านความปลอดภัยต่างๆ เพื่อป้องกันการฉ้อฉล การฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินเพื่อการก่อการร้าย และอาชญากรรม

• การทำธุรกรรมของเรา รวมถึงการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกรรมต่างๆ เมื่อมีการควบรวมกิจการ เช่น การขาย การโอน การควบรวม การปรับโครงสร้างองค์กร หรือการทำธุรกรรมอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

• การดำเนินการเมื่อมีข้อพิพาท การระงับข้อพิพาท การบังคับสิทธิตามสัญญาของบริษัท การก่อตั้ง การดำเนินการ หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายและสิทธิทางกฎหมาย

• ติดตามตรวจสอบเพื่อให้ปฏิบัติตามนโยบายและกระบวนการต่างๆ ตลอดจนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การสืบสวนเป็นการภายใน ซึ่งจะต้องมีการประมวลผลข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวตน รายละเอียดในการติดต่อ ข้อมูลเกี่ยวกับงานของท่าน แพ็คเกจรางวัล ข้อมูลเกี่ยวกับผลการทำงานและมาตรการทางวินัย ข้อมูลเกี่ยวกับการขาดงาน และข้อมูลองค์กร

• ติดต่อสื่อสารกับท่าน พนักงานท่านอื่นๆ ของพรูเด็นเชียล และบุคคลภายนอก (เช่น พันธมิตรทางธุรกิจในปัจจุบันและผู้ที่อาจจะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของพรูเด็นเชียล ซัพพลายเออร์ ลูกค้า ลูกค้าปลายทาง หรือเจ้าหน้าที่ภาครัฐ) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน รายละเอียดในการติดต่อ ข้อมูลที่เกี่ยวกับงานของท่าน และข้อมูลองค์กร

• การปกป้องรักษาผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท รวมถึง การป้องกันด้านสุขภาพและความปลอดภัยของท่านและบุคคลอื่น การอนุญาตและจำกัดมิให้มีการเข้าถึงพื้นที่ของบริษัท อุปกรณ์สำนักงาน และทรัพย์สินอื่นใด

• ติดต่อสื่อสารกับบุคคลที่ท่านกำหนดให้เป็นผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งจะต้องมีการประมวลผลรายละเอียดในการติดต่อ ข้อมูลเกี่ยวกับงานของท่าน และข้อมูลองค์กร

• ดำเนินการตามคำขอและข้อเรียกร้องทางกฎหมายจากหน่วยงานกำกับดูแลหรือเจ้าหน้าที่ ทั้งที่อยู่ในประเทศและนอกประเทศที่ท่านอยู่อาศัย ซึ่งต้องมีการประมวลผลข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวตน รายละเอียดในการติดต่อ และข้อมูลเกี่ยวกับงานของท่าน แพ็คเกจรางวัล ข้อมูลเกี่ยวกับผลการทำงานและมาตรการทางวินัย ข้อมูลเกี่ยวกับการขาดงาน และข้อมูลองค์กร

• ปฏิบัติหน้าที่ความรับผิดชอบในด้านการเงินของบริษัท ได้แก่ ข้อกำหนดเกี่ยวกับการตรวจสอบ (ทั้งที่เป็นการตรวจสอบภายในและภายนอก) การวิเคราะห์ควบคุมต้นทุนและงบประมาณ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลที่ระบุตัวตน รายละเอียดการติดต่อ ข้อมูลเกี่ยวกับงานของท่าน ข้อมูลเกี่ยวกับผลการทำงานและมาตรการทางวินัย ข้อมูลเกี่ยวกับการขาดงาน และข้อมูลองค์กร

 

นอกจากการเก็บรวบรวม ประมวลผล และใช้ข้อมูลพนักงาน พรูเด็นเชียลยังเก็บรวบรวม ประมวลผล และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษของท่านตามที่ระบุต่อไปนี้ ซึ่งจะเรียกว่า “ข้อมูลพนักงานที่มีความละเอียดอ่อน”

• ข้อมูลสุขภาพและข้อมูลทางการแพทย์ เช่น ประวัติของการเจ็บป่วย การรักษา การวินิจฉัย การบาดเจ็บ การผ่าตัด การปรึกษาและแนะนำของแพทย์ ประวัติเกี่ยวกับโรคและอุบัติเหตุร้ายแรง สภาพทางร่างกายและจิตใจ รายงานการตรวจสุขภาพ จำนวนวันลา ข้อมูลที่ปรากฏบนใบรับรองแพทย์ รายงานสุขภาพตามอาชีพเพื่อการจ่ายเงินเดือน เพื่อการวางแผนงานและข้อมูลการวิเคราะห์แรงงาน และเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับงานเพื่อการจ่ายค่าสินไหมของประกันภัย เพื่อความปลอดภัยในการทำงานและเพื่อการปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (เช่น การรายงานการปฏิบัติหน้าที่) ข้อมูลเกี่ยวกับความพิการเพื่อการอำนวยความสะดวกด้านสถานที่ทำงานและเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ข้อมูลเกี่ยวกับการลาคลอดบุตร / การลารับเลี้ยงบุตรบุญธรรม / การลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรร่วมกันเพื่อการวางแผนแรงงานและเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

• ข้อมูลประวัติอาชญากรรม ในกรณีที่พรูเด็นเชียลได้ตรวจสอบประวัติก่อนการว่าจ้างงานหรือการตรวจสอบประจำปี และได้รับผลการตรวจสอบที่เป็นข้อมูลประวัติอาชญากรรมเกี่ยวกับท่านในกรณีที่เกี่ยวข้องและเหมาะสมกับบทบาทหน้าที่ในการทำงานของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจประกันภัยภายในประเทศที่เกี่ยวข้อง โดยการดำเนินการตรวจสอบกับหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับข้อมูลประวัติอาชญากรรมนั้น

• ข้อมูลเชื้อชาติหรือชาติพันธุ์ เช่น ข้อมูลที่ปรากฏในหนังสือเดินทางของท่านหรือเอกสารเกี่ยวกับความเป็นพลเมืองและสิทธิในการทำงาน และข้อมูลที่ท่านให้ไว้แก่พรูเด็นเชียลโดยสมัครใจเพื่อความเท่าเทียมทางโอกาสและการดูแลและริเริ่มมุมมองด้านความหลากหลาย

• ข้อมูลชีวภาพ เช่น ภาพจำลองใบหน้า: เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการแสดง ระบุ ยืนยันและพิสูจน์ตัวตน ในการบริหารจัดการพนักงานหรือผลประโยชน์ของพนักงานผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น แอปพลิเคชัน เว็บไซต์

• ข้อมูลพฤติกรรมทางเพศ เช่น สถานภาพการสมรสและข้อมูลที่ปรากฏในทะเบียนสมรส / สัญญาในการอยู่ร่วมกัน เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการด้านการเปลี่ยนชื่อ และในกรณีที่ได้รับข้อมูลมาตามความสมัครใจเพื่อการดูแลเฝ้าติดตามและโครงการด้านความเท่าเทียมในด้านโอกาสและความหลากหลาย

 

 

พนักงานในประเทศไทย

• ข้อมูลสุขภาพและข้อมูลทางการแพทย์ (สำหรับพนักงานที่ต้องสมัครเป็นตัวแทนประกันและหน้าที่ในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการขายตรงและการขายทางโทรศัพท์)

ในการแถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโรคประจำตัว รวมถึงโรคที่จำเป็นต้องใช้ยาในกลุ่มที่อาจเสพติดเพื่อรักษาโรค การใช้ยาเพื่อรักษาโรคดังกล่าว ประวัติการเสพสารเสพติดให้โทษและการบำบัด ตามวัตถุประสงค์ในการสมัครเป็นตัวแทนประกันที่หน่วยงานกำกับดูแลประกันภัยกำหนด และเพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการเป็นตัวแทนประกันชีวิต

• สถานภาพทางการเมือง เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบคุณสมบัติ (เช่น การตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเมือง) หรือ การปฏิบัติตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล

• ศาสนาและหมู่เลือดในสำเนาเอกสารที่ราชการออกให้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการแสดง ระบุพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่านต่อบริษัท และส่งต่อไปยังหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจกำกับดูแลในกรณีที่จำเป็นก่อนการว่าจ้างงานหรือการตรวจสอบประจำปี

 

 

พนักงานในประเทศฟิลิปปินส์

นอกจากข้อมูลต่างๆ ข้างต้น ข้อมูลดังต่อไปนี้ยังถือเป็นข้อมูลพนักงานที่มีความละเอียดอ่อน

• การศึกษา

• อายุ (หรือวันเดือนปีเกิด)

• ข้อมูลที่หน่วยงานราชการฟิลิปปินส์ออกให้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงหมายเลขผู้ประกันสังคม

  การอนุญาตหรือการปฏิเสธการอนุญาต การระงับหรือเพิกถอน และแบบแสดงรายการคืนภาษี

 

สาเหตุที่พรูเด็นเชียลจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ประมวลผล และใช้ข้อมูลพนักงานและข้อมูลพนักงานที่มีความละเอียดอ่อน

พรูเด็นเชียลจำเป็นต้องใช้ทั้งข้อมูลพนักงานและข้อมูลพนักงานที่มีความละเอียดอ่อนเพื่อการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานและการปฏิบัติตามหน้าที่ของพรูเด็นเชียลอันเกิดจากการจ้างงานท่านและการประกอบธุรกิจ

บริษัทต้องอธิบายฐานทางกฎหมายที่บริษัทใช้ในการเก็บรวบรวม ประมวลผล และใช้ข้อมูลพนักงาน รวมถึงข้อมูลพนักงานที่มีความละเอียดอ่อนของท่าน ฐานทางกฎหมายที่ใช้จะอยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยความเป็นส่วนตัวในประเทศนั้นๆ ซึ่งบริษัทมีฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้

สำหรับข้อมูลพนักงาน บริษัทมีฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้

• เพื่อปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานกับท่าน ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย โดยเฉพาะหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายแรงงานและการจ้างงาน กฎหมายประกันสังคมและคุ้มครองสังคม กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายภาษีอากร และการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำกับดูแลบริษัท

• เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของพรูเด็นเชียล บริษัทในเครือของพรูเด็นเชียล หรือบุคคลภายนอกอื่นใด (เช่น พันธมิตรทางธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต ซัพพลายเออร์ ลูกค้า ลูกค้าปลายทาง หรือหน่วยงานราชการ หรือศาล)

• บริษัทอาศัยความยินยอมของท่านตามความเหมาะสม โดยเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทได้ขอความยินยอมเป็นการแยกส่วนต่างหาก

• เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น

• เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่พรูเด็นเชียล

 

สำหรับข้อมูลพนักงานที่มีความละเอียดอ่อน บริษัทมีเหตุผลทางกฎหมายดังต่อไปนี้

• บริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งตามข้อกำหนดของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายในประเทศนั้น

• เพื่อปฏิบัติหน้าที่และใช้สิทธิบางประการของพรูเด็นเชียลหรือของท่านในการจ้างงานและประกันสังคม ตลอดจนการกฎหมายคุ้มครองทางสังคม ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายในประเทศ และ/หรือ ข้อตกลงร่วมระหว่างนายจ้างกับสหภาพแรงงานจะอนุญาตให้กระทำได้

• เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่นใด ในกรณีที่ท่านขาดความสามารถทางกายภาพหรือทางกฎหมายในการให้ความยินยอม

• ข้อมูลสาธารณะที่ท่านเปิดเผยต่อสาธารณะด้วยตนเอง

• ข้อมูลสาธารณะที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่าน

• เพื่อก่อตั้ง ปฏิบัติตามหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การยกข้อต่อสู้ขึ้นตามกฎหมาย หรือในกรณีที่ศาลกระทำการตามขอบอำนาจของศาล

• เพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายในประเทศอนุญาตให้กระทำได้

• เพื่อประเมินความสามารถในการทำงานของพนักงานตามที่กฎหมายในประเทศว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายในประเทศอนุญาตให้กระทำได้

• เพื่อความจำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่/ปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองแรงงาน ประกันสังคม สวัสดิการทางสังคมของบุคคลตามกฎหมาย การคุ้มครองทางสังคม ประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ หรือประเมินความสามารถในการทำงานของพนักงานในกรณีที่การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการใช้สิทธิ หรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายในประเทศว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายในประเทศอนุญาตให้กระทำได้

 

เนื่องจากข้อมูลมีจำนวนมาก บริษัทจึงต้องการให้ท่านเข้าใจอย่างชัดเจนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยคำว่าประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของพรูเด็นเชียลหรือบุคคลภายนอกให้หมายความดังต่อไปนี้

• การใช้และการดำเนินการตามโครงสร้างองค์กรสำหรับกลุ่มบริษัทและการแบ่งปันข้อมูลภายในกลุ่มบริษัท

• สิทธิในเสรีภาพในการแสดงออก หรือสิทธิในข้อมูล

• การบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าและการทำการตลาดในรูปแบบอื่น

• การป้องกันการฉ้อฉล การประพฤติมิชอบ การใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทในทางที่

  มิชอบ หรือการฟอกเงิน

• การปฏิบัติตามแนวทางการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด

• ความปลอดภัยทางกายภาพ ความปลอดภัยของเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบเครือข่าย

• การสืบสวนภายในองค์กร

• ข้อเสนอเกี่ยวกับการควบรวมกิจการ

 

ในกรณีที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยฐานเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและบุคคลภายนอกใดจะต้องสมดุลกับประโยชน์ของท่าน ตลอดจนสิทธิและเสรีภาพ ขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทสามารถอาศัยประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายอย่างเหมาะสม และเพื่อกำหนดมาตรการที่เหมาะสมเพิ่มเติมที่บริษัทต้องดำเนินการอีกด้วย

 

บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งใด

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลโดยทั่วไปดังนี้

• จากท่านโดยตรง

• ข้อมูลที่สร้างขึ้นเกี่ยวกับท่านในระหว่างที่ท่านสมัครงานหรือในระหว่างที่บริษัทว่าจ้างท่าน

• จากนายหน้าหรือคนกลางอื่นใด (เช่น บริษัทตัวแทนจ้างงานและบริษัทที่ปรึกษา) ที่เราร่วมงานด้วย

• บริษัทในกลุ่มพรูเด็นเชียล

• คุกกี้ การบริการระบุตำแหน่ง (Location Services) ที่อยู่ IP เมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทหรือแอปพลิเคชันมือถือ

• เทปบันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่อาคารสำนักงาน

• แบบสอบถามและรายละเอียดการติดต่อเมื่อท่านเข้าร่วมในการทำแบบสำรวจหรือเมื่อท่านปรับปรุงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อบนเว็บไซต์ของบริษัท

• จากแหล่งอื่น เช่น นายจ้างคนก่อนของท่าน หน่วยงานป้องกันการทุจริตฉ้อฉล หน่วยงานบริการข้อมูลเครดิต ผู้ให้กู้รายอื่น ข้อมูลการติดต่อที่เผยแพร่ต่อสาธารณชน (เช่น สมุดหมายเลขโทรศัพท์ สื่อสังคมออนไลน์ อินเทอร์เน็ต บทความข่าว) ตัวแทนเรียกเก็บ และ/หรือ ติดตามหนี้ องค์กรอื่นๆ ที่ให้ความช่วยเหลือด้านการป้องกันและตรวจสอบการก่ออาชญากรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย

 

พรูเด็นเชียลจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ใดบ้าง

ตามที่ท่านทราบ เราเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพรูเด็นเชียล และมีหลายบริษัทภายในกลุ่มบริษัทดังกล่าวที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล ทั้งนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัทในเครือของพรูเด็นเชียลเพื่อทำให้มั่นใจว่าการดำเนินการตามวัตถุประสงค์เป็นไปด้วยความเรียบร้อยสมบูรณ์ ในกรณีที่บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทมีนโยบายที่จะจำกัดประเภทบุคคลที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

พรูเด็นเชียลอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก ซึ่งรวมถึงบริษัทต่างๆ ทั้งที่อยู่ภายในและภายนอกกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ที่บริษัทในกลุ่มพรูเด็นเชียลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลของบริษัทตั้งอยู่ ทั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลดังต่อไปนี้

• บริษัทในกลุ่มพรูเด็นเชียล เนื่องจากบริษัท Prudential Services Limited เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท และตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร อีกทั้งยังมีสำนักงานตั้งอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก พรูเด็นเชียลจึงอาจโอนข้อมูลพนักงานและข้อมูลพนักงานที่มีความละเอียดอ่อนไปยังบริษัทอื่นๆ ภายในกลุ่มพรูเด็นเชียล หรืออาจอนุญาตให้บริษัทภายในกลุ่มพรูเด็นเชียลสามารถเข้าถึงข้อมูลพนักงานและข้อมูลพนักงานที่ละเอียดอ่อนดังกล่าวได้ นอกจากนี้ บริษัทต่างๆ ภายในกลุ่มพรูเด็นเชียลนั้นอาจใช้ โอน และประมวลผลข้อมูลเหล่านั้นเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อรักษาและปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการกำลังคนในการทำงาน เพื่อสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มพรูเด็นเชียล เพื่อเป็นข้อมูลการติดต่อสำหรับองค์กร เพื่อบำรุงรักษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อติดตามตรวจสอบและเป็นหลักประกันการปฏิบัติตามนโยบาย กระบวนการต่างๆ ตลอดจนกฎหมายที่ใช้บังคับ และเพื่อดำเนินการตามคำร้องขอตามกฎหมาย และข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลและเจ้าหน้าที่อื่นๆ

• บริษัท Pulse Ecosystems Pte Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทสิงคโปร์ (“PulseCo”) บริษัทอาจโอนข้อมูลดังต่อไปนี้ให้แก่ PulseCo และผู้ดำเนินการของ PulseCo ในกรณีที่จำเป็นเพื่อการเข้าถึงบริการ ฟังก์ชันการใช้งาน คุณลักษณะพิเศษ และข้อมูลต่างๆ ของแอปพลิเคชัน Pulse App ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับการว่าจ้าง (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ชื่อพนักงาน คำนำหน้า รายละเอียดการติดต่อทางธุรกิจ สถานที่ทำงาน ฝ่ายงาน) หมายเลขประจำตัวพนักงาน วันเดือนปีเกิด แบบสอบถาม อุปกรณ์ และเครื่องสวมใส่

• การติดต่อสื่อสารกับบุคคลภายนอก เพื่อความจำเป็นเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ บริษัทอาจโอนข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดผู้ติดต่อในการทำงานและรายละเอียดการติดต่อสื่อสารต่างๆ ไปยังพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ตลอดจนซัพพลายเออร์ ลูกค้า ลูกค้าปลายทาง เจ้าหน้าที่รัฐ และบุคคลภายนอกอื่นๆ

• หน่วยงานกำกับดูแล เจ้าหน้าที่ และบุคคลภายนอกอื่นๆ ในกรณีที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลข้างต้น  บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานรัฐอื่นๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศตามความเหมาะสม ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร กระทรวงแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กรมบังคับคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ/หรือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ศาล และหน่วยงานอื่นๆ (เช่น หน่วยงานด้านภาษีอากร และหน่วยงานที่ทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย) ที่ปรึกษาภายนอกอิสระ (เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชี) กรรมการที่อยู่ภายใต้กลุ่มพรูเด็นเชียล ผู้ให้บริการด้านประกันภัย ผู้ให้บริการด้านเงินบำนาญและผลประโยชน์ต่างๆ ฝ่ายการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและการสืบสวนภายใน (รวมถึงที่ปรึกษาซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่ได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่สืบสวนภายในบริษัท) และผู้เข้าร่วมที่เป็นบุคคลภายนอกในกระบวนการทางกฎหมายหรือบุคคลอื่นๆ ที่บริษัทเชื่อว่ามีความจำเป็นหรือมีความเหมาะสมในการปฏิบัติตามภาระผูกพันทางกฎหมายของบริษัท ยกขึ้นสู้ต่อสิทธิตามกฎหมายหรือตำแหน่งของบริษัท หรือสิทธิของบุคคลที่สามหรือความปลอดภัยส่วนบุคคลของบุคคลใดๆ และอนุญาตให้เราดำเนินการแก้ไขหรือจำกัดความเสียหาย

• นิติบุคคลที่เข้าซื้อกิจการ หากธุรกิจของพรูเด็นเชียลที่ท่านปฏิบัติงานอยู่นั้นได้ถูกขายหรือโอนไปไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน (หรือเมื่อมีการพิจารณาเกี่ยวกับการขายหรือโอน) บริษัทอาจต้องโอนเข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่นายจ้างรายใหม่หรือบุคคลที่อาจจะเป็นนายจ้างรายใหม่ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการโอนธุรกิจนั้นหรือเป็นส่วนหนึ่งในข้อพิจารณาเบื้องต้นเกี่ยวกับการโอนดังกล่าว (เช่น การพิจารณาคัดเลือก) ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสิทธิตามที่กฎหมายใช้บังคับ รวมถึง เขตพื้นที่ที่นายจ้างใหม่หรือผู้ที่อาจเป็นนายจ้างใหม่ตั้งอยู่

• ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือ หน้าที่ ผู้รับโอนสิทธิของเราตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ ในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมกิจการ การโอนธุรกิจ ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน การขาย การซื้อ การเข้าร่วมเป็นกิจการร่วมค้า การโอนสิทธิ การโอนหรือการจำหน่ายไปด้วยประการอื่นใดซึ่ง

  ธุรกิจ สินทรัพย์ หรือหุ้นของบริษัทฯ ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือธุรกรรมอื่นใดที่มีลักษณะ

  คล้ายคลึงกัน

• ผู้ประมวลผลข้อมูล ในกรณีที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลข้างต้น บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอกรายใดรายหนึ่งหรือหลายราย ไม่ว่าบุคคลภายนอกนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทหรือไม่ก็ตาม เพื่อให้บุคคลภายนอกนั้นสามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งที่เหมาะสมได้ (“ผู้ประมวลผลข้อมูล”) ทั้งนี้ ผู้ประมวลผลข้อมูลอาจดำเนินการตามคำสั่งเกี่ยวกับการบริหารจัดการกำลังคนในการทำงาน การให้ความช่วยเหลือด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทน การฝึกอบรม การจัดการเกี่ยวกับการเดินทาง การกำกับดูแลการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และกิจกรรมอื่นใด และอาจมีภาระผูกพันตามสัญญาในการดำเนินการตามมาตรการทั้งด้านเทคนิคและด้านองค์กรที่มีความเหมาะสม เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้รับคำสั่งเท่านั้น

• บุคคลภายนอกอื่นๆ รวมถึง คัสโตเดียน ผู้รับประโยชน์ และสมาคมในภาคธุรกิจ

 

หากท่านต้องการทราบข้อมูลว่าบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทในกลุ่มพรูเด็นเชียลและบุคคลภายนอกรายใดบ้าง โปรดติดต่อบริษัทตามรายละเอียดด้านล่างนี้เพื่อขอบันทึกรายการของกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

 

การโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศ

ผู้รับข้อมูลบางรายที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลพนักงานและข้อมูลพนักงานที่มีความละเอียดอ่อนนั้นอาจตั้งอยู่ในประเทศอื่นนอกประเทศที่ท่านอาศัยอยู่ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง อินเดีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เนเธอร์แลนด์ และแอฟริกา) เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ดังที่ได้ระบุไว้ข้างต้น เมื่อมีการโอนข้อมูลส่วนบุคคลเช่นว่านี้ การโอนนั้นจะกระทำโดยอาศัยความยินยอมจากท่าน หรือฐานทางกฎหมายอื่นภายใต้กฎหมายที่ใช้บังคับ ในกรณีที่เราโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศที่มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เทียบเท่ากับประเทศไทย เราจะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้โอนไปนั้นได้รับความคุ้มครองในระดับที่เพียงพอ หรือเพื่อให้การโอนข้อมูลนั้นสามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ

เราจะใช้มาตรการคุ้มครองข้อมูลที่เหมาะสมและจะปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศดังกล่าวที่เราได้โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไป ซึ่งท่านสามารถขอข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยดังกล่าวได้

 

สำหรับพนักงานที่อาศัยอยู่ในสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร

ในบางกรณี บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ผู้รับข้อมูลที่อยู่ในประเทศนอกสหภาพยุโรป
และ/หรือเขตเศรษฐกิจยุโรป (European Economic Area) (“EEA”) โดยที่ผู้รับข้อมูลในบางประเทศนั้นมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลที่เพียงพออยู่แล้ว เช่น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และการโอนข้อมูลไปยังประเทศอื่น เช่น สหรัฐอเมริกา อาจได้รับความคุ้มครองตามกระบวนการต่างๆ เช่น กรอบข้อตกลงการโอนข้อมูลระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา (EU-US Privacy Shield) อย่างไรก็ตาม การโอนข้อมูลไปยังบริษัทในกลุ่ม
พรูเด็นเชียลนอก EEA นั้น พรูเด็นเชียลมีภาระผูกพันตามข้อ 46 (2) (c) แห่งกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป (General Data Protection Regulation) ที่ต้องปฏิบัติตามข้อสัญญามาตรฐานของสหภาพยุโรป โดยที่คณะกรรมาธิการยุโรปประเมินแล้วว่าเป็นมาตรการคุ้มครองที่เพียงพอสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้รับความคุ้มครองอย่างเพียงพอ

หากผู้รับข้อมูลอยู่ในประเทศอื่นที่ไม่มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ พรูเด็นเชียลจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อให้การโอนข้อมูลออกนอก EEA นั้นได้รับความคุ้มครองอย่างเพียงพอตามข้อกำหนดของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ ซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการคุ้มครองที่เหมาะสม เช่น ข้อสัญญามาตรฐานของสหภาพยุโรปว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูล ทั้งนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทตามรายละเอียดด้านล่างเพื่อขอรับสำเนาข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสมดังกล่าว (“การติดต่อบริษัท”)

 

ท่านดำเนินการในนามบุคคลอื่นใช่หรือไม่

หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัท เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัวของท่าน
คู่สมรส ผู้ที่อยู่ในอุปการะ ผู้รับผลประโยชน์ พยาน และบุคคลอื่นใดที่ท่านอ้างอิง ท่านรับรองและรับประกันว่าท่านมีอำนาจในการดำเนินการเช่นนั้น โดยท่านได้ดำเนินการต่างๆ ดังต่อไปนี้

• แจ้งให้บุคคลอื่นนั้นทราบเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

• ขอความยินยอมในกรณีที่ต้องขอความยินยอม หรืออ้างอิงเหตุผลทางกฎหมายอื่นใดเพื่อให้เราสามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเช่นว่านั้นได้ตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และ

• รับรองว่าจะตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้แก่เรา และจะแจ้งให้เราทราบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้ดังกล่าว

 

พรูเด็นเชียลจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้นานเพียงใด

บริษัทมีนโยบายในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตราบเท่าที่จำเป็น เช่น บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาตามสมควรหลังจากที่ท่านออกจากงานไปแล้วเพื่อให้พรูเด็นเชียลมีข้อมูลที่จำเป็นในกรณีที่มีข้อพิพาทหรือมีการสืบสวนตามกฎหมาย และเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามหน้าที่ใดๆ ก็ตามที่ยังคงมีอยู่ อีกทั้งเพื่อดำเนินการตามคำขอจากเจ้าหน้าที่กำกับดูแล หรือเพื่อติดต่อท่านในกรณีที่อาจมีโอกาสการจ้างงานกับ
พรูเด็นเชียลในอนาคต ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะพิจารณาระยะเวลาในการจัดเก็บจากกฎหมายภายในประเทศที่ใช้บังคับ หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อบริษัทตามรายละเอียดด้านล่าง

 

ผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ

ในบางกรณีตามที่กฎหมายกำหนดเราไม่อาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และบุคคลไร้ความสามารถหากมิได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล หากท่านเป็นผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือบุคคลไร้ความสามารถ โปรดยืนยันว่าท่านไดรับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองโดยชอบธรรมทางกฎหมายในกรณีที่ต้องให้ความยินยอม หากเราทราบว่าเราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์โดยมิได้เจตนาและมิได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองตามข้อกำหนด หรือหากเราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลเสมือนไร้ความสามารถและบุคคลไร้ความสามารถโดยมิได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาล เราจะลบข้อมูลส่วนบุคคลนั้นทันที หรือประมวลผลข้อมูลเฉพาะในกรณีที่บริษัทสามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นนอกเหนือจากความยินยอมได้

 

ท่านมีสิทธิใดบ้างเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิบางประการเกี่ยวกับข้อมูลพนักงานและข้อมูลพนักงานที่มีความละเอียดอ่อนของท่านที่บริษัทประมวลผลภายใต้กฎหมายในประเทศที่ใช้บังคับ อย่างไรก็ตาม สิทธิดังกล่าวอาจมีข้อยกเว้นและข้อจำกัด โดยสามารถสรุปรายละเอียดได้ดังต่อไปนี้

(1) สิทธิในการเข้าถึง

ท่านมีสิทธิยืนยันกับบริษัทว่าจะให้มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือไม่ ในกรณีที่มีการประมวลผล ท่านมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ ที่มีการประมวลผลและวัตถุประสงค์ในการประมวลผล ตลอดจนผู้รับข้อมูลและประเภทของผู้รับข้อมูล อย่างไรก็ตาม บริษัทจำเป็นต้องพิจารณาประโยชน์ของบุคคลอื่นประกอบด้วย ดังนั้น สิทธิในการเข้าถึงดังกล่าวมิใช่เป็นสิทธิเด็ดขาด และหากท่านต้องการขอรับสำเนาข้อมูลมากกว่าหนึ่งฉบับ บริษัทอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากท่าน

ท่านอาจขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมาโดยที่ไม่ได้อาศัยความยินยอมจากท่าน ในกรณีที่กฎหมายภายในประเทศที่ท่านอยู่อนุญาต

(2) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง

ท่านอาจมีสิทธิขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ และไม่เป็นปัจจุบันได้  

(3) สิทธิในการขอให้ลบ (สิทธิที่จะถูกลืม)

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหากข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หรือหากไม่มีฐานทางกฎหมายอย่างอื่นใดในการประมวลผลข้อมูล

(4) สิทธิในการจำกัดการประมวลผล

ในบางกรณี ท่านอาจมีสิทธิขอให้บริษัทจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่บริษัทประมวลผลข้อมูลพนักงานและข้อมูลพนักงานที่มีความละเอียดอ่อนตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล บริษัทเชื่อว่าบริษัทมีประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวซึ่งอาจทำให้บริษัทไม่ต้องปฏิบัติตามคำขอของท่าน

(5) สิทธิในการขอให้โอนข้อมูล

ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และท่านอาจมีสิทธิขอให้ส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังบริษัทอื่นเป็นรายกรณี

(6) สิทธิในการคัดค้านและสิทธิเกี่ยวกับการตัดสินใจดำเนินการโดยอัตโนมัติ

ในบางกรณี ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึง คัดค้านการทำการตลาดแบบตรง การวิเคราะห์พฤติกรรม โดยอ้างเหตุที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์เฉพาะของท่านได้ทุกเมื่อ และบริษัทอาจต้องหยุดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การใช้สิทธิดังกล่าวอาจรวมถึงการขอให้มีบุคคลเข้าแทรกแซงในกรณีที่เป็นการตัดสินใจดำเนินการโดยกระบวนการอัตโนมัติเพื่อให้ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นและโต้แย้งการตัดสินใจดังกล่าวได้

(7) สิทธิในการร้องเรียน

ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือพนักงานเจ้าหน้าผู้มีอำนาจในกรณีที่ท่านเชื่อว่าเรา เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือมิได้ปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม เราใคร่ขอให้เรา ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามที่ท่านมีข้อกังวลในเป็นลำดับแรก ก่อนที่ท่านจะติดต่อหน่วยงานเจ้าหน้าที่ ดังนั้น เมื่อท่านมีข้อกังวลใดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้โปรดติดต่อเราก่อน

(8) สิทธิในการถอนความยินยอม

ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้

ทั้งนี้การถอนความยินยอมไม่ส่งผลกระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนของท่านที่ท่านได้ให้ความยินยอมก่อนที่ท่านจะถอนความยินยอม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ (หรือท่านถอน) ความยินยอมที่จำเป็น เราอาจไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่าน หรือปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทฯ ได้ตามสัญญา

คำขอใช้สิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดข้างต้นของท่านอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย และในบางกรณี เรามีเหตุผลอันสมควรและชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำร้องขอของท่าน เช่น เป็นกรณีที่เราต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล

หากท่านประสงค์ที่จะติดต่อกับบริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทอาจตรวจสอบหรือบันทึกบทสนทนาทางโทรศัพท์ หรือการสื่อสารอื่นใดระหว่างบริษัทกับท่าน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการฝึกอบรม เพื่อความปลอดภัย หรือเพื่อช่วยในการตรวจสอบคุณภาพการให้บริการ

สิทธิบางประการตามที่ได้ระบุไว้ข้างต้นเป็นสิทธิเฉพาะสำหรับผู้สมัครเข้าทำงาน พนักงาน และอดีตพนักงานที่อาศัยอยู่ในเขตอำนาจของสหภาพยุโรป สิทธิที่ท่านมีจะขึ้นอยู่กับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายในประเทศของท่าน หากท่านต้องการใช้สิทธิหรือต้องการคำอธิบายเกี่ยวกับสิทธิดังกล่าว โปรดติดต่อบริษัทตามรายละเอียดด้านล่างนี้ ในหัวข้อ “การติดต่อบริษัท”

 

การติดต่อบริษัท

• หากท่านมีข้อกังวลหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562:
  ติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล (DPO)
  บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
  944 มิตรทาวน์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์ ชั้น 10, 29-31 ถนนพระราม 4
  แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
  อีเมล Thanisa.Pungsupa@prudential.co.th
• หากท่านประสงค์ที่จะใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล :
  ติดต่อฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล
  หัวข้ออีเมล : PDPA Personal Data
  สำหรับผู้สมัครงาน : recruitment@prudential.co.th
  สำหรับพนักงาน : THAHumanResources@prudential.co.th

 

ที่อยู่บริษัท

บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
944 มิตรทาวน์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์
ชั้น 10, 29-31 ถนนพระราม 4
แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 

หมายเหตุ นโยบายฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับโดยสมบูรณ์ในวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับสมบูรณ์