โอนแล้วหาย! แจ้งความออนไลน์ได้ใน 5 นาที แค่ 3 ขั้นตอน
ในยุคที่การซื้อขายออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ การโอนเงินผ่านแอปกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของหลายคน แต่เมื่อความสะดวกมาพร้อมกับความเสี่ยงมิจฉาชีพออนไลน์ ก็ปรับตัวเก่งขึ้นทุกวัน หลอกให้โอนเงินก่อนแล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
หากคุณหรือคนใกล้ตัวเคยตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงออนไลน์ อย่าเพิ่งตื่นตระหนก! เพราะวันนี้คุณสามารถแจ้งความออนไลน์ ได้ง่าย ๆ ภายใน 5 นาที พร้อมแนวทางรับมืออย่างมีสติ เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดตามเงินคืนและดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขั้นตอนรับมือเมื่อโดนหลอกโอนเงินออนไลน์
1. ตั้งสติและรวบรวมหลักฐานให้ครบ
การมีหลักฐานครบถ้วนคือสิ่งสำคัญที่สุดในการแจ้งความออนไลน์ เพราะจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สำหรับหลักฐานที่ควรมี PRU รวบรวมมาให้เรียบร้อยแล้ว ได้แก่
- แคปหน้าจอการสนทนา ไม่ว่าจะเป็นแชทผ่านแพลตฟอร์มอะไรก็ตาม เช่น Line, Facebook, Instagram
- สลิปหรือหลักฐานการโอนเงิน ถือว่าสำคัญอย่างมากเพราะเป็นสิ่งที่จะยืนยันว่ามีการโอนเงินเกิดขึ้นจริง จะใช้เป็นสลิปที่บันทึกในขั้นตอนการโอนเงิน หรือจะใช้สเตทเมนต์ (Statement) ของธนาคารก็ได้
- ข้อมูลบัญชีปลายทางที่โอนเงินไป
- ลิงก์เพจหรือเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง หากคุณซื้อผ่านเพจหรือเว็บไซต์มิจฉาชีพ อย่าลืมเก็บข้อมูลลิงก์ หรือรายละเอียดเพจเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
- รูปภาพสินค้า / โพสต์ที่ใช้หลอกลวง อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือการเก็บหลักฐานรูปสินค้า หรือบันทึกภาพหน้าจอโพสต์ที่ประกาศขายของ หรือโพสต์ที่ใช้หลอกลวงเอาไว้
เคล็ดลับ เก็บหลักฐานในรูปแบบไฟล์ภาพหรือ PDF เพื่อแนบในระบบแจ้งความออนไลน์ได้ง่าย
2. ติดต่อธนาคารเพื่ออายัดบัญชีผู้รับเงิน
หลังจากรู้ตัวว่าโดนหลอก สิ่งแรกที่ควรทำทันทีคือการติดต่อธนาคารเพื่ออายัดบัญชีปลายทางที่รับเงิน ธนาคารจะระงับการทำธุรกรรมการเงินไว้เป็นระยะเวลา 7 หากครบ 7 วันแล้ว ยังไม่มีหมายอายัดจากเจ้าหน้าที่ ทางธนาคารจะยกเลิกการอายัดธุรกรรมของบัญชีปลายทางนั้น หากภายหลังตรวจสอบพบว่าเป็นการก่ออาชญากรรมจริง ก็จะเข้าสู่กระบวนการอายัดต่อไป
ต้องแจ้งอะไรกับธนาคารบ้าง? โทรหาธนาคารของบัญชีปลายทางนั้น ระบุว่าเป็นการถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน และแจ้งวัน-เวลาที่โอนเงิน จำนวนเงินที่โอน และขอให้ธนาคารอายัดบัญชีปลายทาง
ข้อควรรู้ การอายัดบัญชีควรทำภายใน 7 วัน หลังจากเกิดเหตุ เพื่อให้ระงับธุรกรรมก่อนเงินถูกถอนออก

3. แจ้งความออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ตำรวจไซเบอร์
การแจ้งความหลังจากโดนหลอกให้โอนเงิน ไม่จำเป็นต้องไปโรงพักก็ได้ คุณสามารถแจ้งความออนไลน์ได้ผ่านเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com ได้เลย
ขั้นตอนการแจ้งความออนไลน์
1. เข้าเว็บไซต์และเลือกหัวข้อ “แจ้งเหตุอาชญากรรมทางเทคโนโลยี”
2. กรอกข้อมูลผู้เสียหายและรายละเอียดเหตุการณ์
3. แนบหลักฐานที่รวบรวมไว้
4. ระบบจะออกหมายเลขคดี (Case ID) สำหรับติดตามผล
ข้อดี สะดวก รวดเร็ว และสามารถแจ้งได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่จำกัดพื้นที่เกิดเหตุ
4. ติดต่อสายด่วนเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
หากไม่แน่ใจว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร หรืออยากสอบถามแนวทางเพิ่มเติม สามารถติดต่อสายด่วนโดยตรงได้ตลอด 24 ชั่วโมง โทร. 1441 (สายด่วนตำรวจไซเบอร์) หรือโทร. 081-866-3000 (กองบัญชาการอาชญากรรมไซเบอร์) ซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินคดี การติดตามเงิน และการป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ
สิทธิที่ผู้เสียหายควรรู้
นอกจากขั้นตอนที่ต้องทำเมื่อรู้ตัวว่าถูกโกงแล้ว ยังมีสิ่งที่ควรต้องรู้ เพื่อไม่ให้เสียสิทธิของตนเอง นั่นก็คือ หากตัดสินใจไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ตำรวจทุกท้องที่ต้องรับแจ้งความ โดยไม่จำเป็นต้องไปแจ้ง ณ สถานีในท้องที่ที่เกิดเหตุเท่านั้น หากตำรวจปฏิเสธการรับแจ้งความ ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ สามารถร้องเรียนเจ้าหน้าที่ที่ไม่รับแจ้งความได้ที่เบอร์ 02-205-3468 (สภาองค์กรของผู้บริโภค)
โกงเงินผู้อื่นผิดกฎหมายข้อไหน?
สำหรับการหลอกลวงให้โอนเงินเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ฐานฉ้อโกงทรัพย์ มีโทษทั้งจำคุกและปรับ ผู้เสียหายสามารถดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนมีหน้าที่ประสานงานกับ ปปง. เพื่อให้ธนาคารระงับธุรกรรมยึดหรืออายัดทรัพย์ของผู้กระทำผิดโดยเร็ว
ช่องทางร้องเรียนเพิ่มเติมหากคดีไม่คืบหน้า
ในกรณีที่แจ้งความไปแล้วแต่คดีไม่คืบหน้า หรือไม่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ สามารถโทรติดตามกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน 1599 เพิ่มเติมก่อนได้ หรืออีกช่องทางที่สามารถร้องเรียนเมื่อคดีไม่คืบหน้า โดยแจ้งไปที่สภาองค์กรของผู้บริโภค (TCC) ต่อไปนี้
- เว็บไซต์: https://www.tcc.or.th/
- LINE Official: @tccthailand
- Email: complaint@tcc.or.th
- โทรศัพท์: 02-239-1839 กด 1, 081-134-9215 หรือ 081-134-9216
- Facebook: สภาองค์กรของผู้บริโภค
การถูกหลอกโอนเงินออนไลน์อาจทำให้รู้สึกเสียใจและหมดหวัง แต่หากคุณตั้งสติ รวบรวมหลักฐาน และดำเนินการแจ้งความออนไลน์อย่างถูกต้อง อาจมีโอกาสตามเงินคืนและเอาผิดมิจฉาชีพได้ อย่าใจอ่อนหรือมองว่าขั้นตอนเยอะ ใช้เวลานานแล้วปล่อยให้คนโกงลอยนวล ทั้งนี้หมั่นคอยอัปเดตกลลวงใหม่ ๆ รู้ทันภัยออนไลน์อย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพเหล่านั้น และอย่าลืมแชร์บทความนี้ให้คนรอบตัวรู้ทันก่อนจะสายเกินไป
อ้างอิง
- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, https://www.facebook.com/photo/?fbid=1211440441029244&set=a.306545458185418
- สภาองค์กรของผู้บริโภค, https://www.tcc.or.th/tcc_media/police-online-service/
- ธนาคารไทยพาณิชย์, https://www.scb.co.th/th/personal-banking/fraud-fighter/how-to/fraud-occured/
