เลือกภาษา
close
บ้านพักคนชรา เลือกที่ไหนดี 2568
เคล็ด (ไม่) ลับ น่ารู้ - พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต

โสดสตรองตัวแม่ เลือกบ้านพักคนชรายังไงในวัยเกษียณ?

ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ ด้วยจำนวนประชากรวัยเกษียณที่เพิ่มขึ้น ทำให้คนรุ่นใหม่เริ่มปรับเปลี่ยนแนวทางการใช้ชีวิต เช่น เลือกที่จะโสด มีลูกน้อยลง หรือมองหาสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อน เป็นต้น เมื่อการพึ่งพาตนเองหลังเกษียณกลายเป็นเรื่องสำคัญ หนึ่งในทางเลือกที่ช่วยให้ชีวิตวัยเกษียณสะดวกสบายขึ้นก็คือ บ้านพักคนชรา ที่ในปี 2567 มีคนค้นหาคำนี้สูงถึง 4,500 ครั้งต่อเดือน สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจ และการหาข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น หากเราเลือกได้เหมาะสมก็จะช่วยให้ใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายอย่างมีคุณภาพ แต่คำถามสำคัญคือ จะวางแผนอย่างไรให้มีเงินบำนาญเพียงพอ? และถ้าเลือกบ้านพักคนชราควรเลือกแบบไหน? บทความนี้มีคำตอบ

 

เปิดสถิติสะท้อน ‘สังคมสูงวัยในไทย ปี 2567

ก่อนจะไปพูดถึงบ้านพักคนชรา หรือการวางแผนเกษียณ รวมถึงการเตรียมเงินบำนาญไว้ใช้ในวัยชรา จากข้อมูลของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ระบุว่า ประเทศไทยมีประชากรรวมทั้งสิ้น 65,951,210 คน และจากข้อมูลของ Thailand Indicators 2567 พบว่าสัดส่วนของประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปอยู่ที่ร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด* เท่ากับมีผู้สูงอายุประมาณ 13.19 ล้านคน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของประเทศ ที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์

 

*อ้างอิงจากรายงานการสำรวจประชากรผู้สูงอายุในประเทศไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติ

 

วางแผนเกษียณยังไง? ให้มีเงินบำนาญรายเดือนใช้ไปตลอดชีวิต

การเกษียณอายุ คือ การหยุดทำงานตามกฎหมาย โดยทั่วไปกำหนดไว้ที่ 60 ปี สำหรับทั้งเพศชายและเพศหญิง แน่นอนว่าถ้าอยากเกษียณอายุแบบที่ใช้ชีวิตสบาย ๆ มีเงินพอใช้ไปตลอดชีวิต การวางแผนเกษียณยิ่งเป็นสิ่งสำคัญ เพราะอย่าลืมว่า ถึงแม้ไม่มีรายได้แล้ว แต่ยังมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เหมือนเดิม เราจึงต้องคำนึงถึงรายจ่ายหลังเกษียณอายุเอาไว้ ซึ่งวิธีคำนวณรายจ่ายหลังเกษียณอายุจะคำนวณจากเป้าหมายชีวิต และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนว่าอยากจะเป็นแบบไหนนั่นเอง

ค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่ต้องเตรียมเพื่อเกษียณอายุ

ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่จะต้องครอบคลุมตั้งแต่การใช้ชีวิตพื้นฐานไปยังสิ่งที่ต้องการอยากจะทำในชีวิตหลังเกษียณ ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมเอาไว้ เช่น

  • ค่าใช้จ่ายในการอยู่อาศัยบ้านพักคนชรา เช่น ค่าเช่ารายเดือน หรือซื้อแบบสิทธิ์อยู่ถาวร

  • ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าอาหาร ค่านันทนาการ

  • ค่ารักษาพยาบาล เช่น ค่าหมอ ค่ายา และค่ากายภาพบำบัด

  • ค่าประกันสุขภาพ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ในอนาคต

  • ค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน เช่น ค่าดูแลเพิ่มเติมอื่น ๆ ในกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ

วิธีคำนวณเงินที่ต้องใช้หลังเกษียณ

การคำนวณเงินที่ต้องใช้หลังเกษียณเอาไว้คร่าว ๆ จะทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อถึงเวลานั้นจริง ๆ จะได้ใช้ชีวิตแบบ

สบาย ๆ โดยไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องเงินทอง สมมติว่า นางสาว A อายุ 30 ปี วางแผนที่จะเกษียณตอนอายุ 60 ปี และมีแพลนจะใช้ชีวิตหลังเกษียณอีก 25 ปี วิธีคำนวณเงินที่ใช้หลังเกษียณของนางสาว A คือ

คำนวณค่าใช้จ่ายรายปีหลังเกษียณ

สมมตินางสาว A ใช้เงินเดือนละ 30,000 บาท

ดังนั้น ค่าใช้จ่ายรายปีจะคิดเป็น 30,000 × 12 = 360,000 บาท

คำนวณค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้หลังเกษียณทั้งหมด

นางสาว A คาดว่าจะใช้ชีวิตหลังเกษียณอีก 25 ปี

จะคิดเป็น 360,000 ×25 = 9,000,000 บาท

คำนวณค่ารักษาพยาบาลตามเงินเฟ้อ

ปัจจุบันนางสาว A มีค่ารักษาพยาบาล 36,000 บาท/ปี อายุมากขึ้น ค่ารักษาพยาบาลมีแนวโนมเพิ่มเฉลี่ย 10% หลังเกษียณจะใช้ชีวิตอีก 25 ปี คิดด้วยสูตร “ค่ารักษาพยาบาลในอนาคต = ค่ารักษาพยาบาลปัจจุบัน × (1+อัตราเงินเฟ้อด้านสุขภาพ) ^จำนวนปีหลังเกษียณ”

ดังนั้น ค่ารักษาพยาบาลจาก 36,000 บาท/ปี จะเป็น 390,049 บาท/ปี

หากกังวลค่าใช้จ่ายส่วนนี้ แนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพไว้เลย

คำนวณค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ โดยคิดตามอัตราเงินเฟ้อ

ค่าเงินจะลดลงตามอัตราเงินเฟ้อ เฉลี่ย 3% ต่อปี โดยสูตรคำนวณการคิดอัตราเงินเฟ้อ คือ

“เงินที่ต้องการหลังเกษียณ = (ค่าใช้จ่ายรายปี + ค่ารักษาพยาบาลรายปี) × (1+อัตราเงินเฟ้อ) ^จำนวนปีหลังเกษียณ”

ดังนั้น ค่าใช้จ่ายหลังเกษียณจะเป็น (9,000,000+390,049) × (1+0.03)^25 = 19,660,677 บาท

จะเห็นได้ว่าต้องมีเงินเก็บอย่างน้อย 19,660,677 บาท ถึงจะเพียงพอในการใช้จ่ายช่วงเวลาหลังเกษียณ 25 ปี โดยไม่ต้องหารายได้จากช่องทางอื่นเพิ่มเติม

 

บ้านพักคนชรา ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ 2568 ประเทศไทย

 

6 บ้านพักคนชราในไทย เลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์ชีวิตหลังเกษียณ

ในประเทศไทยมีบ้านพักคนชรา หรือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหลายแห่งให้เลือกใช้บริการ ทั้งของภาครัฐและเอกชน ซึ่งแต่ละแห่งก็มีจุดเด่น และบริการที่ต่างกันออกไป เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ดังนั้น มาดูกันดีกว่าว่า บ้านพักคนชราหรือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุไหนที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มโสดสตรองบ้าง

บ้านพักคนชรา บ้านบางแค

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแห่งแรกของเมืองไทย ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2496 เป็นบ้านพักคนชราที่มีราคาถูก เมื่อเทียบกับบ้านพักคนชราอื่น ๆ สำหรับใครที่อยากจะวางแผนเกษียณอายุแล้วไปอยู่บ้านพักคนชราบ้านบางแค ราคาจะอยู่ที่

  • ห้องพักเดี่ยว 1,500 บาท/เดือน/คน

  • ห้องพักคู่ (มา 2 คน เช่น พี่น้อง สามีภรรยา) 2,000 บาท/เดือน (หรือ 1,000 บาท/เดือน/คน) ซึ่งยังไม่รวมค่าน้ำ-ค่าไฟ และจะต้องเสียค่าบำรุงแรกเข้า 300,000 บาท

โดยมีสิทธิประโยชน์ คือ

  • บริการด้านการรักษาพยาบาล โดยมีเจ้าหน้าที่พยาบาลวิชาชีพตลอด 24 ชั่วโมง

  • ฝึกสอนงานประดิษฐ์ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถมีรายได้เพิ่มเติม

  • จัดกิจกรรมนันทนาการในโอกาสต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี

บ้านพักคนชรา บ้านเย็นจิต

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยระยะพักฟื้น รวมไปถึงผู้สูงอายุประเภทอื่น ๆ ซึ่งควบคุมการดูแลผู้สูงอายุโดยพยาบาล และทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุ ที่ผ่านการอบรมเฉพาะด้าน

สำหรับบ้านพักคนชรา บ้านเย็นจิต จะมีราคาห้องพักรวม 10 คน เริ่มต้นที่ 10,000 บาท/เดือน/คน โดยมีสิทธิประโยชน์ คือ

  • มีกิจกรรมให้ผู้สูงอายุได้ออกกำลังกาย และผ่อนคลาย

  • มีบริการดูแลผู้สูงอายุ แบบไป-กลับ ทั้งรายวันและรายเดือน

  • มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

บ้านพักคนชรา แสนสิริ โฮม แคร์

สำหรับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ แสนสิริ โฮม แคร์ มีทั้งหมด 4 สาขา ในกรุงเทพฯ และสมุทรปราการ โดยจะเป็น​ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพ เน้นการดูแลเสมือนบ้าน บรรยากาศร่มรื่น สะอาด ถูกหลักอนามัย มีพยาบาลวิชาชีพดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับบ้านพักคนชรา แสนสิริ โฮม แคร์ มีราคาห้องพักรวม 6 คน เริ่มต้นที่ 18,000 บาท/เดือน/คน โดยมีสิทธิประโยชน์ คือ

  • มีนักกายภาพบำบัด นักโภชนาการ เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุ

  • ที่พักปรับอากาศ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องทำน้ำอุ่น ทีวี

  • เตียงลม และเครื่องดูดเสมหะ (ไม่คิดค่าบริการ และค่าไฟเพิ่มเติม)

บ้านพักคนชรา คุณตา คุณยาย เนอร์สซิ่งโฮม

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยพักฟื้นที่มุ่งเน้นการดูแลเสมือนคนในครอบครัว ให้บริการดูแลทั้งผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และผู้ป่วยเรื้อรังที่ต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการพยาบาลดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับบ้านพักคนชรา คุณตา คุณยาย เนอร์สซิ่งโฮม ราคาจะแบ่งเป็น

  • ห้องรวม 3 คน ราคา 18,000 บาท/เดือน/คน

  • ห้องคู่ราคา 22,000 บาท/เดือน/คน

  • ห้องเดี่ยวราคา 26,000 บาท/เดือน

โดยมีสิทธิประโยชน์ คือ

  • จัดอาหาร 3 มื้อ พร้อมอาหารว่างตามหลักโภชนาการ

  • ออกกำลังกาย และกายภาพบำบัด

  • บริการดูแลและช่วยเหลือด้านการพยาบาล เช่น การฝ้าระวังภาวะโรคหรืออาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ตรวจวัดสัญญาณชีพจร พลิกตัวผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นต้น

  • บริการดูแลและช่วยเหลือด้านอารมณ์ เช่น คอยพูดคุยกับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยพักฟื้น เพื่อจะได้รับฟัง อารมณ์ และความรู้สึกต่าง ๆ หรือกิจกรรมนันทนาการเพื่อส่งเสริมสุขภาพจิต

บ้านพักคนชรา เอลเดอร์ลี่คลับ เนอร์สซิ่งโฮม

ถือเป็นบ้านพักคนชรา บ้านพักคนสูงอายุ และผู้ป่วยระยะพักฟื้น ที่มาในรูปแบบคฤหาสน์ระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะภายนอกหรือภายใน เหมาะกับคนที่วางแผนเกษียณชีวิตแบบหรูหรา พร้อมไปด้วยเครื่องมือ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแบบครบครัน โดยได้รับการันตีจาก TOP BEST BRAND 1 ใน 10 ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุบริการดีเยี่ยมปี พ.ศ. 2563

โดยมีค่าบริการหลายราคา คือ หากต้องการพักเป็นรายวัน จะมีค่าบริการสำหรับห้องพักรวม 1,000 บาท/วัน/คน และสำหรับห้องพักคู่ 1,500 บาท/วัน/คน (ต้องพักอย่างน้อยขั้นต่ำ 7 วัน) รายเดือนคือ ห้องพักรวม 5 คน ราคา 16,000 บาท/เดือน/คน และห้องพักคู่ ราคา 25,000 บาท/เดือน/คน และห้องพักเดี่ยว ราคา 50,000 บาท/เดือน

โดยมีสิทธิประโยชน์ คือ

  • มีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

  • นักกายภาพบำบัด อาหาร 3 มื้อ อาหารว่าง 1 มื้อ

  • รักษาความปลอดภัยด้วยระบบกล้องวงจรปิด

  • ดูแลความสะอาดเสื้อผ้า

บ้านพักคนชรา เถาจือ โฮม

สำหรับใครที่วางแผนเกษียณอายุอยากมีชีวิตบั้นปลายคล้าย ๆ กับบ้านพักตากอากาศ เถาจือ​ โฮม คือคำตอบ เพราะมีสนามหญ้าหน้าบ้านไว้ทำกิจกรรม ดอกไม้ ต้นไม้ พร้อมอากาศที่บริสุทธิ์ เพราะเต็มไปด้วยสีเขียว โดยบ้านพักคนชราที่นี่สามารถรองรับได้ทั้งผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่ต้องการพักฟื้น

สำหรับคนที่จะมาอยู่บ้านพักคนชรา เถาจือ โฮม จะมีราคาคือ

  • ห้องพักรวม 4 - 6 คน ราคา 20,000 บาท/เดือน/คน

  • ห้องพักคู่ 23,000 บาท/เดือน/คน

  • ห้องพักเดี่ยว 25,000 บาท/เดือน

  • ห้องพักฟื้นรวม (3 และ 5 เตียง) เริ่มต้น 30,000 บาท/เดือน/คน

  • ห้องพักฟื้นพิเศษ 1 เตียง 35,000 บาท/เดือน

โดยมีสิทธิประโยชน์ คือ

  • บริการดูแลผู้สูงอายุที่ครอบคลุมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ มีทีมแพทย์ พยาบาล นักกายภาพบำบัด และนักโภชนาการที่พร้อมดูแลผู้เข้าพักอย่างใกล้ชิด

  • จัดอาหารที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ โดยเน้นโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ

  • กิจกรรมนันทนาการ การออกกำลังกาย และกิจกรรมกายภาพบำบัด เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย และจิตใจ เช่น ทำงานฝีมือ ร้องเพลง

  • ระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้เข้าพักและครอบครัวมั่นใจในความปลอดภัยตลอดเวลา

  • รายงานอาการ และสถานะสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ และเปิดโอกาสให้ครอบครัวมาเยี่ยมเยียนได้ตามความเหมาะสม

 

วิธีคำนวณเงินเกษียณอายุ สำหรับจ่าย บ้านพักคนชรา ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ

 

วิธีคำนวณงินเกษียณ สำหรับจ่ายค่าบ้านพักคนชราในฝัน

อ่านถึงตรงนี้หลายคนคงอยากรู้แล้วว่าแล้วเงินเกษียณ สำหรับจะไปอยู่บ้านพักคนชราจะต้องเก็บเท่าไหร่? หรือเก็บยังไงดี? เพราะเป็นอีกก้อนที่สำคัญมากที่จะเกษียณอายุแบบคนโสดสตรองได้ จากโจทย์คือ นางสาว A วางแผนจะมีชีวิตอีก 25 ปีหลังเกษียณอายุ ดังนั้นจะนำราคาบ้านพักคนชรา 2  แห่ง มาคำนวณให้ดูแบบง่าย ๆ กัน คือ

  • บ้านบางแค 1,500 บาท/เดือน/คน

  • เถาจือ โฮม 25,000 บาท/เดือน/คน

คำนวณค่าบ้านพักคนชรา โดยคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อมีค่าเฉลี่ย 3% ต่อปี ซึ่งค่าบ้านพักคนชราในอนาคตจะคำนวณจากสูตร “ค่าบัานพักคนชราในอนาคต = ค่าบ้านพักคนชราปัจจุบัน×(1+อัตราเงินเฟ้อ)^จำนวนปีหลังเกษียณ เท่ากับว่า

  • บ้านบางแค : จาก 1,500 บาท จะเป็น 3,140 บาท/เดือน (37,680 บาท/ปี)

  • เถาจือ โฮม : จาก 25,000 บาท จะเป็น 52,340 บาท/เดือน (628,080 บาท/ปี)

คำนวณเงินออมที่ต้องเตรียมสำหรับการอยู่บ้านพักคนชรา

นางสาว A มีแผนจะอยู่บ้านพักคนชรา 25 ปีหลังเกษียณ ซึ่งเงินออมที่ต้องเตรียมสำหรับจะอยู่บ้านพักคนชราคำนวณได้ด้วยสูตร

“เงินออมที่ต้องมี = ค่าใช้จ่ายรายเดือนในอนาคต × จำนวนปีหลังเกษียณ” และสำหรับบ้านพักคนชราบางแค มีค่าแรกเข้าเพิ่มอีก 300,000 บาท จะคิดได้ว่า

  • บ้านบางแค : (37,688 x 25) + 300,000 = 1,242,000 บาท

  • เถาจือ โฮม : 628,133 x 25 = 15,703,000 บาท

 

ออมเงินเกษียณอายุแบบคนโสด

 

5 วิธีเตรียมเงินเกษียณ ให้พร้อมอยู่บ้านพักคนชรา ฉบับคนโสดสตรอง

อยากเกษียณแบบคนโสดสตรอง ไปอยู่บ้านพักคนชราแบบเฉิดฉาย ก็ต้องวางแผนการเงินให้ดี สมมติว่า นางสาว A อายุ 30 ปี ตั้งเป้าจะไปอยู่บ้านพักคนชรา เถาจือโฮมที่ต้องเตรียมเงินประมาณ 15,703,335 บาท มาดูกันว่า การลงทุนทั้ง 5 วิธีนี้จะช่วยให้นางสาว A ทำตามเป้าหมายออมเงินเพื่ออยู่บ้านพักคนชราได้หรือไม่!

ออมเงินเกษียณด้วยบัญชีเงินฝาก

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยของเงินต้น เน้นความเสี่ยงต่ำ

  • ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ สูงสุด 2%

Tip & Tricks ออมก่อนได้เปรียบ ด้วยดอกเบี้ยทบต้น

ตัวอย่าง ออม 5,000 บาท ทุก ๆ เดือน ตั้งแต่อายุ 30 ปี เมื่ออายุ 60 ปี มีเงินเก็บ 2.4 ล้านบาท

ออมเงินเกษียณอายุผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการสะสมเงินใช้หลังเกษียณ

  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุด 7% ต่อปี

Tip & Tricks ออมเล็กน้อย แต่สร้างเงินก้อนโต พร้อมรับผลตอบแทน

ตัวอย่าง ผู้ประกันตนเงินเดือน 20,000 บาท นายจ้างหักสมทบ 5% ออมตั้งแต่อายุ 30 ปี พออายุ 60 มีจะมีเงินเก็บประมาณ 2.35 ล้านบาท โดยแบ่งเงินเป็นของผู้ประกันตน 1.18 ล้านบาท และเงินสมทบนายจ้าง 1.18 ล้านบาท

ออมเงินเกษียณอายุผ่านหุ้น

  • เหมาะกับผู้ต้องการผลตอบแทนสูงกว่าฝากเงิน และรับความเสี่ยงสูงได้

  • ลงทุนในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 8% (ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ ความผันผวนของตลาด และแนวโน้มการเติบโตของหุ้นที่เลือกลงทุน)

Tip & Tricks ลงทุนเร็ว สร้างโอกาสถึงเป้าหมาย

ตัวอย่าง ลงทุน 10,000 บาท ทุกๆ เดือน ตั้งแต่อายุ 30 ปี เมื่ออายุ 60 ปี มูลค่าอาจเพิ่มขึ้นเป็น 14.18 ล้านบาท จากผลตอบแทนทบต้น

ออมเงินเกษียณอายุในรูปแบบประกันสะสมทรัพย์

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการออมเงิน แบบได้ผลตอบแทนแน่นอน และสามารถลดหย่อนภาษีได้

  • ซื้อประกันสะสมทรัพย์ PRUEasy Saver 10/4

Tip & Tricks ออมเงินเกษียณง่ายได้ชัวร์ แถมลดหย่อนภาษี

ตัวอย่าง ออมเงินในรูปแบบประกันสะสมทรัพย์ “PRUEasy Saver 10/4” เพศหญิง อายุ 30 ปี จ่ายเบี้ยฯ 4 ปี ปีละ 300,000 บาท คุ้มครอง 10 ปี ครบกำหนดสัญญา 10 ปี รับเงินคืน 1,212,000 บาท

ออมเงินเกษียณอายุในรูปแบบประกันบำนาญ

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคง มีเงินใช้หลังเกษียณ และสามารถลดหย่อนภาษีได้

  • ซื้อประกันบำนาญ พรูบำนาญสราญใจ

Tip & Tricks ออมเงินแบบมีวินัย ก็มีใช้ตอนเกษียณ

ตัวอย่าง ออมเงินในรูปแบบประกันบำนาญ “พรูบำนาญสราญใจ” เพศหญิง อายุ 30 ปี ค่าเบี้ยฯ ปีละ 67,830 บาท จำนวนเงินเอาประกันภัย 1 ล้านบาท ชำระเบี้ยฯ ถึงอายุ 60 ปี เมื่ออายุครบ 60 ปี ได้รับเงินบำนาญปีละ 150,000 บาท ตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่อายุครบ 60-85 ปี (รวมทั้งสิ้น 26 ครั้ง) รวมรับเงินคืนตลอดสัญญา 3,900,000 บาท

จะเห็นได้ว่า เมื่อรวมการลงทุนทั้ง 5 วิธีแล้ว เงินเก็บสำหรับการไปอยู่บ้านพักคนชราของนางสาว A จะอยู่ที่ประมาณ​ 24 ล้านบาท ซึ่งเกินเป้าหมายของเงินที่ต้องเตรียมไว้นั่นเอง

มองหาตัวช่วย
เพื่อการเกษียณ คลิก!

หมายเหตุ

  • เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์

  • ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนการตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

  • เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำมาใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด

  • เบี้ยประกันภัยคุ้มครองชีวิตแบบบำนาญสามารถนำมาใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี หรือสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี ในกรณีที่ไม่มีเบี้ยประกันภัยคุ้มครองชีวิตแบบอื่น ๆ (ทั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร)