
พ่อแม่รับมืออย่างไร เมื่อเด็กยุคใหม่ต้องใช้ชีวิตแบบมีไมโครพลาสติกอยู่ในตัว
ความกังวลใจที่เพิ่มขึ้นของบรรดาพ่อแม่คือการดูแลลูก ๆ ให้มีสุขภาพดีในท่ามกลางมลภาวะที่รายล้อมรอบตัว อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว อาหารและน้ำปนเปื้อนสารพิษ รวมถึงไมโครพลาสติกที่เข้ามาในห่วงโซ่อาหาร ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาอุตสาหกรรม การใช้สารเคมีในการเกษตร และการจัดการขยะที่ไม่เหมาะสม ทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพของเด็กทั้งระยะสั้นและระยะยาว กระทบทั้งการเจริญเติบโต การพัฒนาของสมอง และระบบภูมิคุ้มกันของเด็ก
มนุษย์ “กิน” ไมโครพลาสติก 5 กรัมต่อสัปดาห์
ไมโครพลาสติก คือพลาสติกขนาดเล็กมาก เล็กกว่า 5 มิลลิเมตร มาจากการแตกหักของพลาสติกขนาดใหญ่ เช่น ขวดน้ำ ถุงพลาสติก และยังอาจเป็นพลาสติกที่ผลิตมาโดยตรงเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม เช่น พลาสติกในผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย เสื้อผ้าและสิ่งทอ เมื่อไมโครพลาสติกเข้าสู่สิ่งแวดล้อมแล้วแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว สามารถเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารผ่านสัตว์ สิ่งแวดล้อม และแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้โดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยจากองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ร่วมกับมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลออสเตรเลีย ได้ค้นหาปริมาณพลาสติกจากแหล่งธรรมชาติสู่วงจรบริโภคของมนุษย์ พบว่ามนุษย์อาจบริโภคพลาสติกขนาดเล็กเข้าสู่ร่างกายประมาณ 5 กรัมต่อสัปดาห์ เทียบเท่ากับบัตรเครดิต 1 ใบ คิดเป็นปริมาณพลาสติกกว่า 2,000 ชิ้น หรือ 21 กรัมต่อเดือน 250 กรัมต่อปี
เด็กเสี่ยงได้รับไมโครพลาสติกจากอะไรบ้าง
นักวิจัยได้พบว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูง ที่จะพบไมโครพลาสติกในผลิตภัณฑ์หลายประเภทที่เกี่ยวข้องกับทารกและเด็ก
-
น้ำนมมารดา ซึ่งเป็นแหล่งโภชนาการที่สำคัญสำหรับทารกแรกเกิด ไมโครพลาสติกอาจปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายของแม่จากสิ่งแวดล้อมที่แม่เผชิญในชีวิตประจำวัน
-
นมผงสำหรับทารก เนื่องจากขั้นตอนการผลิตและการใช้ภาชนะบรรจุพลาสติก ขวดนม โดยเฉพาะขวดนมพลาสติก
-
ของเล่น ที่ทำจากพลาสติกหรือเสื้อผ้าที่มาจากเส้นใยสังเคราะห์ อาจสลายเป็นไมโครพลาสติก เมื่อผ่านการใช้งานนานหรือแตกหัก
-
อาหารและน้ำดื่มที่บรรจุในขวดพลาสติกมีโอกาสปนเปื้อนไมโครพลาสติกจากกระบวนการผลิตบรรจุภัณฑ์ และอาหารทะเล เช่น ปลาและหอยอาจมีการสะสมไมโครพลาสติกในร่างกายของมัน
-
การใช้งานบรรจุภัณฑ์พลาสติกซ้ำ หรือการให้ความร้อนกับพลาสติกในไมโครเวฟ จะเพิ่มความเสี่ยงในการปนเปื้อนไมโครพลาสติก
ผลกระทบเมื่อเด็กได้รับสิ่งปนเปื้อนไมโครพลาสติก
-
ผลกระทบต่อพัฒนาการสมอง: ไมโครพลาสติกอาจมีสารเคมีที่เป็นพิษซึ่งสามารถเข้าไปก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบประสาทและการทำงานของสมอง
-
ฮอร์โมนผิดปกติและเป็นหนุ่มสาวก่อนวัย: ฮอร์โมนเพศ การสัมผัสกับไมโครพลาสติกอาจทำให้เกิดภาวะเป็นหนุ่มสาวก่อนวัย เช่น การเริ่มต้นมีประจำเดือนหรือการพัฒนาลักษณะทางกายภาพที่บ่งบอกถึงความเป็นเพศชายหรือเพศหญิงเร็วกว่าปกติ
-
โรคระบบทางเดินหายใจ: ไมโครพลาสติกที่ปนเปื้อนในอากาศและเข้าสู่ร่างกายผ่านการหายใจ ทำให้เกิดการระคายเคืองในทางเดินหายใจ การอักเสบในปอด และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น หอบหืด และ โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
-
ความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง: เนื่องจากไมโครพลาสติกที่บริโภคเข้าไป เกิดการสะสมอาจทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดเซลล์มะเร็งในระยะยาว
พ่อแม่จะป้องกันอย่างไร ให้ไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายลูกน้อยที่สุด
-
เลือกใช้ภาชนะที่ปราศจากพลาสติกในการเก็บและปรุงอาหาร แนะนำให้ใช้ภาชนะสแตนเลสหรือแก้วแทน
-
ใช้เครื่องกรองน้ำหรือเครื่องฟอกอากาศที่สามารถกรองไมโครพลาสติกได้และได้มาตรฐาน
-
เลี่ยงผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายที่มีไมโครพลาสติก เช่น สครับหน้า ยาสีฟัน และ เลือกเสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน หรือผ้าไหม
-
ลดการใช้ของเล่นพลาสติก หมั่นตรวจสอบของเล่นเป็นประจำ หากของเล่นพลาสติกเกิดการเสียหายหรือเริ่มเสื่อมสภาพควรรีบเปลี่ยนหรือทิ้งทันที
แม้ว่าในยุคนี้ไมโครพลาสติกจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่พ่อแม่สามารถป้องกันและลดความเสี่ยงจากการสัมผัสไมโครพลาสติกได้ ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกในชีวิตประจำวัน และส่งเสริมให้ลูกๆ มีความรู้และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม
ข้อมูลอ้างอิง