เลือกภาษา
close
กินดิบยังไงให้ปลอดภัย! วิธีเลือกซูชิและปลาดิบ
เคล็ด (ไม่) ลับ น่ารู้ - พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต

กินดิบยังไงให้รอด! วิธีเลือกซูชิและปลาดิบอย่างปลอดภัย

ใกล้ถึงวันที่ 18 มิถุนายนซึ่งเป็นวันซูชิสากลที่จะมีการเฉลิมฉลอง และทานซูชิกันแบบเต็มที่ เมื่อพูดถึงซูชิ หลายคนมักนึกถึงเมนูอาหารญี่ปุ่นที่ผสมผสานรสชาติอันลงตัวของข้าวญี่ปุ่นปรุงรส และปลาดิบ แต่ในขณะที่ซูชิสร้างความสุขให้กับลิ้นของเรา “อาหารดิบ” ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของซูชิก็อาจแฝงไปด้วยความเสี่ยงต่อสุขภาพหากไม่ได้รับการจัดเตรียมอย่างถูกต้อง บทความนี้จึงมาพร้อมการแนะนำวิธีรับประทานอย่างปลอดภัย และข้อควรระวังเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมด้วยความรู้ที่เหมาะสม

ซูชิเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมทั่วโลก เพราะความสดใหม่ของวัตถุดิบ และรสชาติที่ไม่ซับซ้อนแต่กลมกล่อม วัตถุดิบหลักที่มักใช้ในซูชิ เช่น ปลาดิบ จำพวกปลาแซลมอน ปลาทูน่า กุ้งดิบ และไข่ปลาญี่ปุ่น ต่างก็มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ตั้งแต่ โปรตีน โอเมก้า-3 และวิตามินหลากหลายชนิด นอกจากนี้การรับประทานซูชิยังเป็นประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น ทำให้ผู้คนหลงใหลในอาหารชนิดนี้อย่างแพร่หลาย

แต่ถึงแม้จะแพร่หลายขนาดไหน อาหารทุกอย่างก็ล้วนมีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกันไปในตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความเป็น “อาหารดิบ” ก็ควรจะต้องระวังมากเป็นพิเศษในการรับประทาน เพราะหากคุณไม่ระวังความเสี่ยงทั้งหลายก็สามารถส่งผลต่ออาการเจ็บป่วยต่อร่างกายได้ โดยความเสี่ยงของอาหารดิบนั้นมีอยู่ดังนี้

 

ความเสี่ยงที่แฝงอยู่ในอาหารดิบ

1. การปนเปื้อนของเชื้อโรค

อาหารดิบ เช่น ปลาดิบหรือกุ้งดิบ อาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียหรือปรสิต เช่น ซัลโมเนลลา (Salmonella) วิบริโอ (Vibrio) และอะนิซาคิส (Anisakis) เชื้อเหล่านี้สามารถทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ ท้องเสีย คลื่นไส้ และอาเจียนได้ นอกจากนี้ เชื้อวิบริโอยังมีความเสี่ยงสูงต่อผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว

2. ปรสิตในปลาดิบ

อะนิซาคิสเป็นปรสิตที่พบได้ในปลาทะเลบางชนิด หากบริโภคเข้าไป อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และอาจต้องเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ ในกรณีที่รุนแรงอาจเกิดภาวะลำไส้อุดตัน หรืออาจมีพยาธิที่จำเป็นต้องใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อเอาออกจากร่างกาย

3. โลหะหนัก และสารเคมีตกค้าง

ปลาบางชนิดอาจสะสมโลหะหนัก เช่น ปรอท ซึ่งหากบริโภคเป็นประจำในปริมาณมาก อาจส่งผลกระทบต่อระบบประสาทและสมอง โดยเฉพาะในเด็กและหญิงตั้งครรภ์ นอกจากนี้ ยังอาจมีสารเคมีตกค้างจากการปนเปื้อนในแหล่งน้ำที่ปลาถูกจับมา

4. การแพ้โปรตีนในอาหารทะเล

สำหรับบางคน การรับประทานอาหารทะเลที่ดิบอาจกระตุ้นอาการแพ้โปรตีนในอาหารโดยไม่รู้ตัว ซึ่งก่อให้เกิดอาการ เช่น คัน ผื่นแดง หายใจลำบาก หรือในกรณีร้ายแรง อาจถึงขั้นช็อกจากภูมิแพ้ได้ (anaphylactic shock)

แน่นอนว่าความเสี่ยงเหล่านี้ดูน่ากลัว และอาจส่งผลกระทบร้ายแรงได้ แต่สำหรับผู้ชื่นชอบในอาหาร การเลิกบริโภคสิ่งที่ทำให้มีความสุขก็อาจยากเกินไป ซึ่งหากคุณยังอยากเพลิดเพลินต่อไปเราก็มีวิธีที่แนะนำ และทำไม่ยากดังนี้

 

ข้อระวังในการทานอาหารดิบ

1. เลือกแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้

ควรเลือกรับประทานซูชิจากร้านที่มีความสะอาด ได้มาตรฐานในการจัดเก็บวัตถุดิบ ที่รู้วิธีจัดการ และป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรคโดยมีการรับรองเป็นอย่างดี

2. บริโภควัตถุดิบที่ผ่านการแช่แข็งอย่างเหมาะสม

การแช่แข็งวัตถุดิบดิบที่อุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียสหรือต่ำกว่าเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันสามารถช่วยกำจัดปรสิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีนี้เป็นมาตรฐานที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารญี่ปุ่น เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของวัตถุดิบได้

3. สังเกตคุณภาพของอาหาร

ควรตรวจสอบวัตถุดิบ เช่น สี กลิ่น และความสดใหม่ของปลาดิบ หากพบว่าอาหารมีกลิ่นเหม็นหรือสีผิดปกติ จึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภค และเลือกแค่วัตถุดิบที่มีสีสดใส กลิ่นไม่คาวจนเกินไป และมีเนื้อสัมผัสที่แน่น

4. ระมัดระวังปริมาณการบริโภค

หลีกเลี่ยงการบริโภคปลาดิบหรืออาหารทะเลในปริมาณมากเกินไปในคราวเดียว โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการแพ้หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต หรือภูมิคุ้มกันอ่อนแอ การบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้

5. หลีกเลี่ยงในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง

ผู้ที่ตั้งครรภ์ เด็กเล็ก และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารดิบ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงกว่า นอกจากนี้ การปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคอาหารดิบในกรณีที่มีโรคประจำตัวก็เป็นเรื่องที่ควรทำ

6. เสริมสุขอนามัยในการรับประทาน

ใช้ตะเกียบหรืออุปกรณ์ที่สะอาดเมื่อรับประทานปลาดิบ หลีกเลี่ยงการใช้มือเปล่า เพราะอาจเพิ่มโอกาสการปนเปื้อนของเชื้อโรค และควรล้างมือให้สะอาดทั้งก่อน-หลังการรับประทานอาหาร

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดนั้นคือการ “ไม่ลืม” ว่าอาหารดิบนั้นแฝงไปด้วยความเสี่ยง ดังนั้นจึงควรเลือกรับประทาน และปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อความปลอดภัย เพื่อช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับความอร่อยของซูชิได้มากขึ้น ในวันซูชิสากลนี้นอกจากจะทำให้ได้เฉลิมฉลองกับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคนรักแล้ว ก็ยังเป็นโอกาสให้ได้แลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อให้คนที่คุณรักได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับร่างกาย อันเป็นหัวใจสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างสมดุล

 

อย่าลืมให้พรูเด็นเชียล ประเทศไทยเป็นผู้สนับสนุนความสุขในการทานของคุณ มาเพิ่มความรู้ด้านสุขภาพจนพรั่งพรูไปกับพรูเด็นเชียล ประเทศไทย ให้เราได้เป็นผู้สนับสนุนความสุขในการทานของคุณ พร้อมดูแลเคียงข้างคุณ และคนที่คุณรักไปในทุก ๆ วันสำคัญ และวันธรรมดาทั่วไป

 

และเลือกสุขภาพที่ดีอย่างมั่นใจ ด้วยประกันสุขภาพจาก บมจ. พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) คลิกเลย!

 

Reference

https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/infographic

https://www.verywellhealth.com/diseases-associated-with-eating-sushi-1958814

https://www.channelnewsasia.com/singapore/raw-fish-risks-parasite-infections-sashimi-sushi-3279521

https://www.businessinsider.com/is-sushi-bad-for-you-2018-1#eating-large-amounts-of-big-ocean-fish-like-tuna-and-yellowtail-can-lead-to-mercury-poisoning-1