
Passive Income คืออะไร มีเทคนิคสร้างความมั่งคั่งอย่างไรบ้าง ?
เชื่อว่าอิสรภาพทางการเงิน เป็นความฝันของใครหลายคน เพราะคงเป็นเรื่องดีไม่น้อย ถ้าไม่ต้องนั่งทำงานทุกวัน แต่ก็ยังมีเงินเข้ามาในบัญชีให้ใช้จ่าย แต่การจะมีชีวิตดี ๆ แบบนั้นได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะคุณต้องสร้างรายได้แบบ Passive Income ให้ได้เสียก่อน แล้วการสร้างรายได้แบบ Passive Income คืออะไร ทำอย่างไรได้บ้าง เราจะมาช่วยตอบทุกข้อสงสัย พร้อมมาบอกเคล็ดลับดี ๆ ที่สามารถนำไปทำตามได้ ไปเช็กข้อมูลดี ๆ กันได้เลย
ความหมายของ Passive Income และความแตกต่างจาก Active Income คืออะไร ?
ทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่าการสร้างรายได้ หมายถึงการได้รับผลตอบแทนจากการทำงาน การขายสินค้า หรือเป็นการลงทุนในด้านต่าง ๆ โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ Passive Income กับ Active Income
ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าต่างกันอย่างไร ทำไมใคร ๆ ถึงสนใจการสร้างรายได้แบบ Passive Income กันมากนัก เราจะมาบอกให้เข้าใจกัน ดังต่อไปนี้
Passive Income
Passive Income หมายถึงการสร้างรายได้จากผลตอบแทนในสินทรัพย์บางประเภทที่ตนเองเป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นการลงทุนและลงแรงในช่วงแรก เพื่อเก็บดอกผลที่งอกเงยออกมาเป็นรายได้ต่อไปในภายหลัง โดยไม่ต้องมานั่งทำงานทุกวัน เพื่อแลกกับการรับรายได้เป็นเงินเดือนเพียงทางเดียว ช่วยสร้างอิสรภาพและความมั่นคงทางการเงินได้มากยิ่งขึ้น
Active Income
ส่วน Active Income จะหมายถึงการสร้างรายได้จากการใช้แรงกาย สติปัญญา ความรู้และความสามารถในการทำงานเพื่อแลกเป็นค่าจ้างหรือเงินเดือนประจำ โดยถ้าอยากได้เงินมาก ก็จำเป็นต้องลงแรงมาก และต้องมีทักษะในการทำงานที่สูง ซึ่งความเสี่ยงของ Active Income คือหากไม่สามารถทำงานได้ในวันใด รายได้ก็จะหายไปด้วยเช่นกัน
รายได้แบบ Passive Income ได้มาจากอะไรบ้าง ?
ในการสร้างรายได้แบบ Passive Income มีหลากหลายวิธี โดยที่ได้รับความนิยม มีดังนี้
-
กำไรจากการลงทุน เป็นการสร้างผลกำไรจากการซื้อขายหุ้น กองทุน รวมถึงสินทรัพย์เพื่อการลงทุนประเภทต่าง ๆ
-
เงินปันผล เป็นการสร้างผลกำไรจากการร่วมลงทุนในบริษัท หรือกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยจะมีการจ่ายปันผลให้ผู้ลงทุนทั้งในแบบเงินสด กองทุน และหุ้น
-
ค่าเช่า เป็นการสร้างรายได้จากการปล่อยให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโดมิเนียม และที่ดิน รวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือในการทำงาน เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร และรถยนต์
-
ดอกเบี้ย เป็นการสร้างรายได้ง่าย ๆ เพียงการนำเงินไปฝากไว้ในธนาคาร ในรูปแบบของเงินฝากประจำ เพื่อรอรับดอกเบี้ยตามอัตราและระยะเวลาที่ทางธนาคารกำหนด
-
มูลค่าเพิ่มของสินทรัพย์ เป็นรายได้จากกำไรในการขายสินทรัพย์ที่ถือครองอยู่ ซึ่งมีมูลค่าสูงขึ้นกว่าตอนที่ซื้อ เช่น ที่ดินที่ราคาแพงขึ้น หรือหุ้นที่ราคาสูงขึ้น
-
กำไรจากการขายและให้บริการ เป็นรายได้จากการขายลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญา เช่น เพลง นิยาย รวมถึงขายสินค้าหรือบริการ เช่น ภาพถ่าย ภาพกราฟิก ในเว็บไซต์ให้บริการคลังภาพต่าง ๆ
วิธีสร้างรายได้แบบ Passive Income มีอะไรบ้าง ?
ใครที่อยากสร้างรายได้แบบ Passive Income แต่ยังไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง เรามีไอเดียดี ๆ ที่สามารถเลือกทำตามได้ ดังนี้
เงินฝากประจำ
เริ่มต้นกันด้วยวิธีง่าย ๆ อย่างการนำเงินไปฝากในบัญชีเงินฝากประจำ ทั้งแบบปกติและแบบดิจิทัล โดยควรเลือกที่มีการจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือนหรือ 6 เดือน ซึ่งวิธีการนี้นับว่ามีความเสี่ยงต่ำที่สุด แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีผลตอบแทนที่ได้อาจไม่สูงมากนัก
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
การซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นอีกหนึ่งวิธีในการสร้าง Passive Income เพราะสามารถทำให้เงินงอกเงยได้ โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินคืน พร้อมผลตอบแทนตามที่กำหนด เมื่อครบระยะเวลาของสัญญา ที่สำคัญยังได้รับความคุ้มครองในชีวิตด้วย อีกทั้งการซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ยังเป็นรูปแบบการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ให้ผลประโยชน์ที่คุ้มค่า ที่สำคัญผลกำไรที่ได้จากการลงทุนไม่ต้องนำไปยื่นภาษีเหมือนการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ และยังนำเบี้ยประกันภัยมาใช้ในการลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
ตราสารหนี้
อีกหนึ่งรูปแบบของการลงทุนเพื่อสร้าง Passive Income คือการซื้อตราสารหนี้ ซึ่งเป็นตราสารทางการเงินชนิดหนึ่งที่รัฐบาลหรือบริษัทเอกชนออกขายให้แก่นักลงทุน โดยผู้ที่ซื้อจะได้รับผลตอบแทนเป็น “ดอกเบี้ย” กลับคืนมาตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ตอนที่ซื้อขาย และจะได้รับเงินต้นคืนทั้งหมด เมื่อครบกำหนดอายุตราสารหนี้
หุ้น
การซื้อหุ้นเป็นหนึ่งในรูปแบบการลงทุนที่มีผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูง แต่ก็แลกมาด้วยความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นด้วย โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกได้ระหว่างการทำเงินในระยะเวลาสั้น ๆ จากการรับส่วนต่างในการซื้อ-ขายหุ้น หรือถ้าต้องการลดความเสี่ยงลง ก็สามารถเลือกเป็นการรอรับเงินปันผลจากของผลประกอบการของบริษัทที่ซื้อหุ้นไว้ได้เช่นกัน
ธุรกิจให้เช่าหรือซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
ในส่วนของคนที่ต้องการสร้าง Passive Income แบบระยะยาว การเลือกลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ จัดว่าเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ โดยในช่วงแรกอาจต้องใช้ทั้งเงินทุนในการซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน หรือสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างที่ค่อนข้างสูง แต่จะได้รับผลตอบแทนเป็นค่าเช่า ที่สามารถเก็บดอกผลไปได้เรื่อย ๆ ทั้งยังสามารถหารายได้จากการซื้ออสังหาริมทรัพย์ มาเพื่อขายต่อเมื่อมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นได้อีกด้วย
ธุรกิจแฟรนไชส์
สำหรับผู้ที่มีธุรกิจเป็นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านชากาแฟ ที่ได้รับการตอบรับและสร้างรายได้ที่ดี สามารถสร้าง Passive Income เพิ่มจากธุรกิจเหล่านี้ได้ ด้วยการขายแฟรนไชส์ธุรกิจ แต่ก็ต้องอาศัยการลงแรงอยู่บ้าง ในการโปรโมต รวมถึงช่วยดูแล และให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ แก่ผู้ที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดี และรักษาผลตอบแทนในระยะยาวได้
การบริหารความเสี่ยงในการสร้าง Passive Income
แม้ว่ารายได้แบบ Passive Income จะฟังดูน่าสนใจ แต่สิ่งสำคัญคือการเข้าใจและบริหารจัดการความเสี่ยงที่มาพร้อมกับการลงทุนแต่ละประเภท เพื่อให้การสร้างความมั่งคั่งเป็นไปอย่างยั่งยืน
ความเสี่ยงของแต่ละวิธี
-
เงินฝากประจำ/ตราสารหนี้ แม้จะมีความเสี่ยงต่ำ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ ที่อาจทำให้มูลค่าที่แท้จริงของผลตอบแทนลดลง รวมถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง หากถอนเงินก่อนกำหนดอาจไม่ได้รับดอกเบี้ยตามที่คาด
-
หุ้น/กองทุน มีความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด ซึ่งส่งผลต่อราคาหุ้น และความเสี่ยงของบริษัท ที่อาจมีผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้า นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง หากต้องการขายหุ้นในเวลาที่ไม่เหมาะสม
-
อสังหาริมทรัพย์ มีความเสี่ยงจาก ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ที่อาจทำให้ค่าเช่าลดลงหรือหาผู้เช่าไม่ได้, ปัญหาจากผู้เช่า เช่น ไม่ชำระค่าเช่า ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่อาจสูงกว่าที่คาด รวมถึงอาจต้องเจอกับสภาพคล่องต่ำ หากต้องการขายสินทรัพย์นั้น ๆ ในเวลาอันรวดเร็ว
-
ธุรกิจแฟรนไชส์ แม้จะมีระบบรองรับ แต่ก็มีความเสี่ยงจากการแข่งขันในตลาด การบริหารจัดการของแฟรนไชซีที่อาจไม่เป็นไปตามมาตรฐาน หรือความสำเร็จของธุรกิจแฟรนไชซี ที่ส่งผลโดยตรงต่อรายได้
การกระจายความเสี่ยง (Diversification)
หลักการกระจายความเสี่ยงที่สำคัญคือ "อย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว" การลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภทและมีลักษณะที่แตกต่างกัน จะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุนได้
การศึกษาข้อมูลและการวางแผน
ก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ทำความเข้าใจในสินทรัพย์นั้น ๆ และมีแผนสำรองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ข้อมูลเหล่านี้คงจะช่วยให้เข้าใจเกี่ยวกับการสร้างรายได้แบบ Passive Income กันมากขึ้น และมีไอเดียดี ๆ ในการลงทุนเพื่อสร้าง Passive Income ของตนเอง ส่วนใครที่สนใจซื้อประกันสะสมทรัพย์ ซึ่งเป็นหนึ่งวิธีที่จะช่วยสร้าง Passive Income ให้แก่คุณได้ สามารถเลือกซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เพื่อการออม พรูสุขสำราญ กับพรูเด็นเชียล ประเทศไทย ได้เลย