ถูกลอตเตอรี่เสียภาษีเท่าไหร่ ? พร้อมแนวทางวางแผนการเงิน
เชื่อว่าไม่ว่าใครก็ฝันอยากถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นรางวัลที่ 1 หรือรางวัลอื่น ๆ แล้วถ้าโชคดีถูกรางวัลขึ้นมาจริง ๆ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะเรื่องภาษีลอตเตอรี่ที่ต้องจ่ายในแต่ละรางวัล วันนี้เราได้รวบรวมทุกสิ่งที่ว่าที่เศรษฐีจำเป็นต้องรู้มาไว้ให้ครบถ้วนแล้ว
Table of Content
เมื่อถูกหวยต้องชำระภาษีอย่างไร ? : ขั้นตอนการชำระภาษี
การชำระภาษีจะดำเนินการโดยอัตโนมัติ ณ จุดรับรางวัล โดยเจ้าหน้าที่จะทำการคำนวณภาษีที่ต้องหัก ณ ที่จ่าย และหักออกจากเงินรางวัลที่คุณได้ทันที
ถูกลอตเตอรี่เสียภาษีเท่าไร ? : สลากกินแบ่งแบบธรรมดา และสลากการกุศลชุดพิเศษ
เมื่อคุณถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายทันที ซึ่งโดยปกติแล้ว สลากกินแบ่งรัฐบาลที่เราซื้อกันจะมีอยู่ 2 ประเภท คือแบบธรรมดาและแบบการกุศล ซึ่งอัตราภาษีก็จะแตกต่างกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
ภาษีสลากกินแบ่งรัฐบาล (แบบธรรมดา)
สำหรับผู้ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายทันทีเมื่อไปขึ้นเงินรางวัล ด้วยอัตรา 0.5% ของเงินรางวัล ข้อดีคือคุณไม่ต้องนำเงินรางวัลนี้ไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีอีก เพราะถือว่าได้เสียภาษีครบถ้วนแล้ว
ภาษีสลากการกุศลชุดพิเศษ
กรณีถูกสลากการกุศลชุดพิเศษ จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 1% ของเงินรางวัล ซึ่งสูงกว่าสลากแบบธรรมดา แต่ก็ได้รับสิทธิประโยชน์เช่นเดียวกันคือไม่ต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้ประจำปี
สรุปถูกรางวัลที่ 1 เสียภาษีเท่าไร ?
-
กรณีสลากแบบธรรมดา รางวัลที่ 1 มูลค่า 6,000,000 บาท หักภาษี 0.5% = 30,000 บาท คุณจะได้รับเงินสุทธิ 5,970,000 บาท
-
กรณีสลากการกุศลที่ รางวัลที่ 1 มูลค่า 6,000,000 บาท หักภาษี 1% = 60,000 บาท คุณจะได้รับเงินสุทธิ 5,940,000 บาท
ขึ้นเงินลอตเตอรี่รางวัลอื่น ๆ หักภาษีกี่บาท ?
หากถูกรางวัลอื่น ๆ นอกเหนือจากรางวัลที่ 1 ไม่ว่าจะเป็นรางวัลที่ 2-5 หรือรางวัลเลข 2 ตัว และ 3 ตัว ทั้ง 3 ตัวหน้า และ 3 ตัวหลัง ก็ล้วนใช้อัตราภาษีเดียวกันคือ 0.5% สำหรับสลากแบบธรรมดา และ 1% สำหรับสลากการกุศลชุดพิเศษ
สรุป : ถูกหวยเสียภาษีเท่าไร และขึ้นเงินลอตเตอรี่หักกี่บาท ?
ตารางเปรียบเทียบมูลค่ารางวัลและภาษีสลากกินแบ่งรัฐบาล
|
ประเภทรางวัล |
มูลค่ารางวัล (บาท) |
สลากแบบธรรมดา (0.5%) |
สลากการกุศล (1%) |
||
|
ภาษีที่หัก |
รับเงินสุทธิ |
ภาษีที่หัก |
รับเงินสุทธิ |
||
|
รางวัลที่ 1 |
6,000,000 |
30,000 |
5,970,000 |
60,000 |
5,940,000 |
|
รางวัลที่ 2 |
200,000 |
1,000 |
199,000 |
2,000 |
198,000 |
|
รางวัลที่ 3 |
80,000 |
400 |
79,600 |
800 |
79,200 |
|
รางวัลที่ 4 |
40,000 |
200 |
39,800 |
400 |
39,600 |
|
รางวัลที่ 5 |
20,000 |
100 |
19,900 |
200 |
19,800 |
|
เลข 3 ตัวหน้า |
4,000 |
20 |
3,980 |
40 |
3,960 |
|
เลข 3 ตัวท้าย |
4,000 |
20 |
3,980 |
40 |
3,960 |
|
เลข 2 ตัวท้าย |
2,000 |
10 |
1,990 |
20 |
1,980 |
ขึ้นรางวัลได้ที่ไหนบ้าง ? จุดรับรางวัลสลากกินแบ่ง
1. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (สำนักงานใหญ่) รับรางวัลได้ทุกประเภท ไม่จำกัดจำนวนเงิน
ตั้งอยู่เลขที่ 359 ถนนนนทบุรี ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000 ชั้น G
กองจ่ายรางวัล โทร 0-2528-9682 และ 0-2528-9732
เปิดทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-15.30 น.
2. ธนาคารที่เป็นตัวแทนจ่ายรางวัล
สามารถรับรางวัลได้ไม่เกิน 80,000 บาทต่อฉบับ แต่ไม่สามารถขึ้นรางวัลที่ 1 ได้
-
ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ
-
ธนาคารออมสิน ทุกสาขาทั่วประเทศ
-
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขา
เอกสารที่ต้องเตรียมเมื่อไปขึ้นรางวัล
-
สลากที่ถูกรางวัล (ต้องไม่ชำรุดในสาระสำคัญ)
-
บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง
-
สำเนาบัตรประชาชน 1 ฉบับ
-
สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ฉบับ (กรณีรับรางวัลที่ 1)
-
สมุดบัญชีธนาคาร (กรณีรับเงินผ่านการโอน)
ขึ้นเงินผ่านแอปฯ เป๋าตัง (เริ่มมาตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2566)
สำหรับผู้ที่ซื้อสลากดิจิทัล “ทุกรางวัล” สามารถขึ้นเงินผ่านแอปฯ เป๋าตังได้ทันที
กรณีผู้ซื้อสลากดิจิทัลที่ผูกบัญชีของ ธ.กรุงไทย บนแอปฯ เป๋าตังเอาไว้ สามารถขึ้นเงินรางวัลได้อัตโนมัติ โดยจะมีค่าธรรมเนียม 1% ของเงินรางวัล (ไม่รวมอากรแสตมป์ 0.5% หรือ 1% ที่ต้องชำระทางกฎหมาย)
รอบการโอนเงินเมื่อขึ้นเงินผ่านแอปฯ เป๋าตัง
หลังจากขึ้นรางวัล เงินรางวัลจะถูกโอนเข้าบัญชีตามช่วงเวลา ดังนี้
-
ขึ้นเงินก่อน 23.00 น. - รับเงินไม่เกิน 06.00 น. ของวันถัดไป
-
ขึ้นเงินหลัง 23.00 น. - รับเงินไม่เกิน 06.00 น. ของอีก 2 วันถัดไป
วางแผนการเงินหลังถูกรางวัลอย่างไรดี ? : โอกาสสร้างความมั่นคงที่ยั่งยืน
การวางแผนการเงินหลังจากถูกรางวัลลอตเตอรี่ โดยเฉพาะรางวัลที่ 1 เพื่อให้เงินก้อนนี้สร้างความมั่นคงได้อย่างยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในยุคที่เงินเฟ้อพุ่งสูงอย่างเช่นปัจจุบัน เพราะเงินหกล้านบาทในวันนี้อาจมีมูลค่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การบริหารเงินรางวัลจึงต้องคำนึงถึงการรักษามูลค่าและสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน
สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว การกระจายการลงทุนในหลายรูปแบบเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ โดยอาจแบ่งเงินไปลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ทั้งหุ้น พันธบัตร กองทุนรวม และประกันชีวิต ซึ่งการกระจายการลงทุนเช่นนี้จะช่วยให้พอร์ตการลงทุนของเรามีความยืดหยุ่นและทนต่อความผันผวนของตลาดได้ดีขึ้น
สร้างความมั่นคงทางการเงินแบบไม่ต้องเสี่ยงโชค เลือกทำประกันชีวิตกับพรูเด็นเชียล
ในขณะที่การซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นการเสี่ยงโชคที่อาจนำมาซึ่งเงินก้อนใหญ่ แต่โอกาสถูกรางวัลนั้นมีน้อยมาก การวางแผนการเงินที่ดีจึงไม่ควรมีแต่เครื่องมือที่ต้องอาศัยการ โชค และควรมีการใช้เครื่องมือการลงทุนที่มั่นคงและแน่นอนด้วย ซึ่งการทำประกันชีวิตเป็นหนึ่งในเครื่องมือสร้างความมั่นคงที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะได้รับความคุ้มครองชีวิตแล้ว ยังมีส่วนของการออมที่จะได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน
หากเปรียบเทียบระหว่างการซื้อสลากกินแบ่งกับการทำประกันชีวิต จะเห็นได้ว่าทั้งสองทางเลือกมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน การซื้อสลากเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความตื่นเต้นและยอมรับความเสี่ยงได้สูง ในขณะที่การทำประกันชีวิตเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงและสร้างการเติบโตของเงินออมอย่างสม่ำเสมอ
ให้พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต ช่วยวางแผนการเงินเพื่ออนาคตที่มั่นคงของคุณด้วยทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจอย่างประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
เลือกกรมธรรม์ประกันชีวิตสะสมทรัพย์เพื่อการออม จากพรูเด็นเชียล ประกันชีวิตได้ที่นี่
ข้อมูลอ้างอิง